สภาพแวดล้อมดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

สภาพแวดล้อมดี มีชัยไปกว่าครึ่ง

            พระพุทธศาสนาของเรานั้น เป็นแหล่งรวมของความรู้ทุกศาสตร์ และ
ที่สำคัญยังเป็นหลักในการดำเนินชีวิตอีกด้วย หากเราได้ศึกษาอารยธรรมหรือ
ความรู้เกี่ยวกับจริยศาตร์ของประเทศต่างๆ แล้วเอามาเทียบเคียงกับคำสอน
ในพระพุทธศาสนา จะทำให้เราสามารถเอาความรู้นั้นมาก่อให้เกิดประโยชน์
สูงสุดได้
            ผมมีความประทับใจในนิทานจีนเป็นพิเศษ เนื่องจากถูกปลูกฝังมา
กับนิทานคุณธรรมเหล่านั้น หนึ่งในเรื่องที่อยู่ในความทรงจำไม่เคยลืมเลือน
คือ เรื่องของท่านเมิ่งจื่อ ท่านเป็นปราชญ์ที่มีชื่อเสียงอย่างมากของจีน บิดา
ของท่านล่วงลับไปตั้งแต่ท่านยังเด็ก ท่านจึงอาศัยอยู่กับมารดาตลอดมา โดย
ที่มารดาของท่าน ก็ไม่คิดจะแต่งงานใหม่แต่อย่างใด
            เรื่องราวของท่านมันน่าสนใจก็ตรงที่ เดิมนั้นบ้านของท่านอยู่ใกล้
ป่าช้า ท่านและเพื่อนๆก็เลยเล่นเป็นสัปเหร่อ แห่ศพไปมา เมื่อแม่ของท่าน
เห็นดังนั้น รู้ว่าไม่ได้การแล้ว จึงย้ายบ้านไปอยู่ข้างตลาด เป็นที่พลุกพล่าน
แวดล้อมไปด้วยผู้คน ท่านและเพื่อนๆก็เล่นเป็นพ่อค้า เลียนแบบท่าทาง การต่อรองราคา เมื่อแม่ของท่านเห็นเข้าก็ไม่ชอบใจ ย้ายบ้านอีกเป็นครั้งที่
สอง ไปอยู่ใกล้โรงเรียน คราวนี้เด็กๆเล่นกันเป็นครู นักเรียน ฝึกการมีความ
เคารพ รักการอ่าน ณ จุดนี้ แม่ของท่านพอใจ จึงปักหลักอยู่ที่นั่น
            ทุกครั้งที่มีใครถามท่านเมิ่งจื่อว่าท่านประสบความสำเร็จได้อย่างไร
ท่านจะตอบอย่างเต็มปากเต็มคำว่า ท่านได้ดีเพราะมารดา
            เราจะเห็นได้ว่า แม่ของท่านยอมย้ายบ้านถึง 3 ครั้ง เพื่อให้ได้สิ่งที่ดี
ที่สุดกับท่าน เพราะคิดอยู่เสมอว่า ต้องการให้ลูกของตนเป็นนักการศึกษา
เมื่อมาดูในหลักธรรมเรื่องสัปปายะ 4  ซึ่งประกอบไปด้วย สถานที่ อาหาร
บุคคล และธรรมะ จะเห็นได้ว่า เรื่องสถานที่อยู่เป็นอันดับแรก
             ในเรื่องนี้ ผมได้เคยกราบเรียนถามหลวงพ่อรองเจ้าอาวาสว่า ใน
สัปปายะสี่นี้ อะไรสำคัญที่สุด ท่านตอบว่า ธรรมะ สำคัญที่สุด ผมเลยถาม
ต่อว่า อ้าว หากธรรมะสำคัญที่สุดแล้วทำไมเอาสถานที่ขึ้นมาก่อน ท่านเฉลย
ว่า ลองนึกภาพดู ต่อให้เรามีวิชชา มีความรู้ดีแค่ไหน หากมีใครเขาอยากจะ
ศึกษา อยากจะเรียนรู้ แต่พอมาถึง สถานที่ไม่เป็นที่น่าประทับใจ เดินเข้าวัด
มีแต่ขี้นก ขี้หมา อาคารก็ทรุดโทรม มีแต่เก้าอี้  โต๊ะหักๆ พังๆ ใครเขาจะเชื่อ
ว่า เรามีธรรมะที่ดี
            ผมก็เลยกราบเรียนท่านว่า นี่ใช่ไหมครับ คือ สาเหตุที่หลวงพ่อและ
ทีมงานต้องเหน็ดเหนื่อยสร้างวัดใหญ่ ก็เพื่อรองรับคนที่มาปฏิบัติธรรม หาก
หลวงพ่อสร้างศาลาหลังเล็กๆ จุได้ไม่กี่คน ก็คงจะมีคนมาแค่นั้น หลวงพ่อ
ท่านอมยิ้ม คงภูมิใจว่า ลูกศิษย์ยังมีปัญญาคิดได้บ้าง ท่านขยายความต่อว่า
“ที่หลวงพ่อทั้งสองยอมเหน็ดเหนื่อยทุกวันนี้ ก็เพียงเข็นงานพระศาสนา ไม่เคยคิดมักใหญ่ใฝ่สูงอย่างที่เขาพูดๆกัน ฉายาของหลวงพ่อก็บอกอยู่แล้ว
ทัตตชีโว ผู้อุทิศชีวิตให้พระศาสนา แล้วหลวงพ่อจะเอาอะไร ยิ่งหลวงพ่อ
ธัมมะ องค์นั้นตระหนักในพระคุณของหลวงปู่วัดปากน้ำ และคุณยาย จึง
ต้องการจะเผยแผ่วิชชา เพื่อตอบแทนพระคุณของท่าน...”
            ผมจำได้ว่า วันนั้นหลังจากที่ได้กราบหลวงพ่อรองเจ้าอาวาสแล้ว
ผมมีอาการปีติ เดินเหมือนตัวลอยๆ มีความภาคภูมิใจ ในครูบาอาจารย์
ที่ท่านเห็นความสำคัญของพระพุทธศาสนา และทุ่มเทเสียสละเพื่อ
เตรียมสถานที่รองรับผู้มีบุญจากทั่วโลก
            หากผมสามารถขออะไรจากตะเกียงวิเศษได้ ณ เวลานี้ ผมคงจะ
ขอให้คนทั้งโลก ได้เข้าใจในปณิธานของหลวงพ่อทั้งสอง แล้วมาช่วย
กันสร้างสรรค์ สิ่งที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน เพื่อให้คนทั้งโลกเข้าถึง
ความสุขที่แท้จริง



Cr.ปรัศนี
สภาพแวดล้อมดีมีชัยไปกว่าครึ่ง สภาพแวดล้อมดีมีชัยไปกว่าครึ่ง Reviewed by asabha072 on 6:28 PM Rating: 5

No comments:

Powered by Blogger.