จากรอยสัก...ถึงสัมมาทิฏฐิ

จากรอยสัก...ถึงสัมมาทิฏฐิ

"พม่า" เข้ม"ศาสนาพุทธ"ไล่ตะเพิดนักท่องเที่ยวต่างชาติ สักรูป "พระพุทธ"ที่ขา

พม่าเนรเทศนักท่องเที่ยวชาวสเปน พบมีรอยสักรูปพระพุทธเจ้าที่ขา

ไม่รู้ที่ต่ำที่สูง!! ชาวเสปนสักรูป"พระพุทธรูป"ไว้ที่ขา แล้วไปเที่ยวพม่า เจอตำรวจจับได้เนรเทศออกจากประเทศทันที!!

''นี่สิ เมืองพุทธ'' ตำรวจพม่าจับนักท่องเที่ยวสักพระพุทธรูปที่ขา แล้วเนรเทศทันที!

     นี่คือข้อความที่พาดหัวข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ฉบับต่าง ๆ ในช่วงวันที่ ๑๑ ก.ค. ที่ผ่านมา ความรู้สึกเมื่อเห็นข่าวนี้คือความชื่นชม ในความไม่ดูดายของชาวพม่า ที่มีต่อพระพุทธศาสนา จึงไม่แปลกใจว่าทำไมพระพุทธศาสนาที่พม่าจึงยังมีความเข้มแข็งอยู่

     มองย้อนกลับมาที่ประเทศของเรา แม้ว่าจะปรากฏตามสถิติว่า ประเทศไทยมีชาวพุทธอยู่กว่า ๘๕ เปอร์เซนต์ แต่ก็ต้องยอมรับความจริงว่า ชาวพุทธที่เข้าใจว่าการเป็นชาวพุทธจริง ๆ นั้นต้องทำอย่างไร คงมีอยู่ไม่มากนัก และผมก็มั่นใจว่าหากเหตุการณ์ดังข่าวข้างต้นนี้เกิดขึ้นที่เมืองไทย ก็คงจะไม่มีใครจะออกมาเป็นปากเสียงในนามตัวแทนชาวพุทธ

     ที่เศร้าใจหนักไปกว่านั้นคือ การที่มีข่าวเจ้าหน้าที่เข้าไปแจ้งข้อหาเอาผิดกับพระที่ท่านตั้งใจเอาธรรมะไปเผยแผ่ให้กับชาวเขา หรือแม้กระทั่งพระที่อาพาธนั่งอยู่บนรถเข็น ทั้งที่ใกล้จะเข้าพรรษาแล้ว ก็ไปปักป้ายไม่ให้ใช้ศาสนสถาน โดยที่ไม่มีการเข้าไปตรวจสอบให้ชัดเจน ก็ใช้วิธีแจ้งข้อกล่าวหาก่อนแล้วให้พระท่านไปแก้ข้อกล่าวหาในภายหลัง ซึ่งผมมั่นใจว่าท่านไม่ผิดแน่ เพราะมีเอกสารพร้อมจะแสดง ซึ่งการที่ทำอย่างนี้ผู้กระทำย่อมรู้อยู่แก่ใจว่ามีอะไรอยู่เบื้องหลังหรือไม่

     ณ วันนี้ ผู้ที่มีใจเป็นธรรมย่อมจะมองออกแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะเป้าหมายดูเหมือนจะพุ่งตรงไปที่วัดที่มีพระภิกษุจากวัดพระธรรมกายไปอยู่ คงไม่ต้องบอกกระมังว่า ต้องการให้สังคมมองว่าวัดพระธรรมกายคือ ผู้ร้าย ทั้งที่วัดเหล่านั้นใช้เป็นที่อบรมเยาวชน หลายแห่งได้รับรางวัลศูนย์อบรมดีเด่นก็มี บางแห่งก็สอบบาลีได้มากที่สุดของจังหวัดก็มี

     พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า เมื่ออาทิตย์อุทัยทอแสงจับขอบฟ้า ย่อมเป็นนิมิตหมายของอรุณรุ่งฉันใด สัมมาทิฏฐิก็เป็นแสงเงินแสงทองของชีวิตฉันนั้น



     ผมก็ได้แต่หวังว่าแสงเงินแสงทองของชีวิตจะส่องไปสู่ใจของผู้มีอำนาจที่กำลังกระทำการบั่นทอนจิตใจชาวพุทธในขณะนี้นะครับ

ขอขอบคุณภาพจาก google.com

อนาคาริก

07/20/16