คำถามถึงพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ(DSI)
คำถามถึงพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ(DSI)
ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนว่า
บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อต้องการให้เกิดความชัดเจนในสังคม
ไม่ได้มีเจตนาจะหมิ่นประมาทหรือดูหมิ่นหน่วยงานราชการ หรือบุคคลใดทั้งสิ้น
เนื่องจากเป็นประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดกันบ่อย ๆ แต่ก็ยังไม่ได้รับความชัดเจนสักที ทำให้เกิดความเคลือบแคลงในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
โดยหลักของกระบวนการยุติธรรมนั้นจะมีกระบวนการดังนี้
๑. มีการแจ้งความร้องทุกข์ กล่าวโทษ
๒. พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน
๓. เมื่อเห็นว่าคดีมีมูล
การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิด
ก็ให้เรียกผู้ถูกกล่าวหานั้นมารับทราบข้อกล่าวหาในฐานะผู้ต้องหา
๔. สำหรับผู้ต้องหาเมื่อมีหมายเรียก
- หากมาพบพนักงานสอบสวน ก็จะถูกแจ้งข้อกล่าวหา
- หากมาพบพนักงานสอบสวน ก็จะถูกแจ้งข้อกล่าวหา
-
หากไม่มาหรือหลบหนี ก็จะถูกออกหมายจับ
๕. เมื่อพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว
ก็จะสรุปสำนวนการสอบสวนพร้อมความเห็น
เสนอไปยังพนักงานอัยการ
๖. เมื่อพนักงานอัยการรับเรื่องแล้ว
จะมีคำสั่งเป็น ๓ แบบ คือ
-
สั่งฟ้อง
-
สั่งไม่ฟ้อง
-
ส่งเรื่องมาที่พนักงานสอบสวนให้สอบสวนเพิ่มเติม
๗. หากพนักงานอัยการเห็นควรสั่งฟ้อง
ก็จะต้องนำตัวผู้ต้องหาส่งฟ้องศาล
ในประเด็นที่สงสัยกันคือ
เรื่องของพระพุทธอิสระกับนายไพบูลย์ นิติตะวัน
ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีเกี่ยวกับกบฎ
ขอแยกแต่ละกรณี ดังนี้
เรื่องของพระพุทธอิสระ
ได้ดำเนินไปตามขั้นตอน
จนถึงขั้นตอนที่พนักงานอัยการมีคำสั่งให้ทำการสอบสวนเพิ่มเติม
ประเด็นที่สงสัยคือ
เวลาผ่านไปถึงสองปีแล้ว ทำไมการสอบสวนเพิ่มเติม จึงยังไม่เสร็จสิ้นใช้เวลานานผิดปกติ
และจะเสร็จสิ้นเมื่อใด ?
เรื่องของนายไพบูลย์ นิติตะวัน
จากข้อมูลที่ทราบมาคือ
เมื่อมีการร้องทุกข์ กล่าวโทษเกิดขึ้น พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนเสร็จ
และมีความเห็นสั่งฟ้อง จากนั้นก็ส่งสำนวนการสอบสวนไปยังอัยการ โดยไม่มีขั้นตอนของการเรียกมาแจ้งข้อหา จึงเป็นเหตุให้ไม่มีการออกหมายเรียกหรือหมายจับ
ประเด็นที่สงสัยคือ
๑.
การที่พนักงานสอบสวนทำอย่างนี้ เป็นการทำผิดขั้นตอนหรือไม่ ?
๒.
หลังจากนั้น นายไพบูลย์ นิติตะวัน ได้ไปปรากฏตัวที่ DSI และเข้าร่วม
พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ DSI
หลายครั้ง เหตุใด DSI จึงไม่แจ้งข้อกล่าวหากับนายไพบูลย์
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา ๑๓๔ การกระทำของ DSI จะเข้าข่ายความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
ตาม ม. ๑๕๗ และฐานเป็นพนักงานสอบสวน กระทำการอันเป็นการช่วยเหลือผู้ต้องหา เพื่อมิให้ต้องรับโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๐๐ หรือไม่ ?
๓.
จากการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวของ DSI เป็นการกระทำความผิดวินัยร้ายแรงหรือไม่ ?
ผมคงไม่คาดหวังว่า
คำถามนี้จะได้รับคำตอบเนื่องจากเคยตั้งคำถามหลายครั้งแล้ว แต่ไม่เคยได้รับคำตอบ
เช่น คำถามว่าหมายเรียกพระเทพญาณมหามุนี
ทำไมจึงหลุดไปที่สื่อบางฉบับก่อนที่จะส่งมาให้เจ้าตัว
ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดา ต้องหาผู้ผิดมาลงโทษให้ได้ ว่าเอกสารที่หลุดไปก่อนนั้นเป็นของจริงหรือปลอม
เพราะมีบางแห่งที่แตกต่างจากเอกสารที่ส่งมายังผู้ต้องหา หากปลอมก็ต้องดำเนินการเอาผิดกับผู้ปลอมเอกสารราชการ
แต่หากเป็นเอกสารที่ถูกต้อง ก็ต้องดำเนินคดีกับผู้ที่ให้เอกสารนั้นกับสื่อฉบับนั้น
ทั้งหมดนี้คือ
สิ่งที่ศิษย์วัดพระธรรมกายตั้งเป็นข้อสงสัยจนเป็นเหตุให้
ไม่เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมครับผม
ขอขอบคุณภาพจาก google.com
อนาคาริก
07/07/16
คำถามถึงพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ(DSI)
Reviewed by asabha072
on
7:01 AM
Rating:
ไม่ตอบเพราะตอบไม่ได้ มันเป็นอคติ มีธงที่จะปฏิบัติแบบ 2 มาตรฐานอยู่แล้ว ?
ReplyDeleteเราไม่เชื่อมั่นในกระบวนการอยุติธรรม !!
ไม่มีแม้สักมาตรฐาน
Deleteไม่มีแม้สักมาตรฐาน
Deleteแล้วอย่างนี้ จะให้เราเชื่อได้ยังไงว่ามีความยุติธรรม จะให้เชื่อได้ยังไงว่าดำเนินการตามขั้นตอน จะให้เชื่อได้ยังไงว่าไม่2มาตรฐาน จะเอาอะไรมาให้เชื่อล่ะ อมโบสธ์มาพูดยังไม่เชื่อเลย เห็น ๆ อยู่ว่าปฏิบัติกับพระกับวัดยังไง ไม่ได้โง่ ไม่ได้โดนกะลาครอบนะ คิดเองได้ ถึงแม้ว่าจะออกสื่อ ใช้วาทกรรมรายวันเป่าหูก็เถอะ ขอโทษนะ ฉลาดค่ะ ไม่โดนหลอกง่าย ๆ ร๊อกกกก
ReplyDelete" อำนาจเสมือนดาบ 2 คม อันตรายๆๆ !!! "
ReplyDeleteเราไม่เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมหลายต่อหลายข้อ ผู้มีอำนาจใช้กฎหมาย มีหลายมาตรฐาน มีอคติในการปฏิบัติหน้าที่ เราจึงไม่เชื่อถือ ไม่ไว้วางใจ แต่เราเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของหลวงพ่อธัมมชโย
ReplyDeleteเราไม่เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมหลายต่อหลายข้อ ผู้มีอำนาจใช้กฎหมาย มีหลายมาตรฐาน มีอคติในการปฏิบัติหน้าที่ เราจึงไม่เชื่อถือ ไม่ไว้วางใจ แต่เราเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของหลวงพ่อธัมมชโย
ReplyDeleteทำให้เราในสังคมเข้าใจได้ว่า..ตอนนี้ประเทศไทยไม่มีมาตรฐานอยากทำอะไรก้อทำได้ถ้ามีเงิน..มีอำนาจ...น่าเศร้าจริงๆประเทศไทย
ReplyDeleteพฤติกรรมส่อเจตนา กรรมจำแนกสัตว์
ReplyDeleteพฤติกรรมส่อเจตนา กรรมจำแนกสัตว์
ReplyDeleteเราไม่เชื่อมั่นในการทำงานของDSI ชัดเจนมากค่ะ ดีมากอยากให้ทุกๆได้อ่านและช่วยกันแชร์เยอะๆค่ะ
ReplyDeleteชัดเจนปักธงแล้วให้วัดบริสุทธิ์อย่างไรก็ตามจะกุเรื่องสร้างภาพทำทุกอย่างให้เป็นผิดให้ได้ ก็ทำทันทีและได้ผลนะกับสังคมที่ผู้คนไม่มาพิสูจน์ความจริงแท้ที่วัดเฉพาะกลุ่มนี้เท่านั้นและเกลียดวัดด้วยความไม่รู้ความแท้จริง/ส่วนลูกศิษย์หลวงพ่อที่มีทั่วโลกและรู้ความจริงแท้ความดีของหลวงพ่อท่านที่ทำมาตลอดกว่า50ปีนั้น จึงทำให้ต้องนำความจริงมากระจ่ายให้คนที่เป็นเหยื่อสื่อผิดๆได้รับรู้ความแท้จริง ว่า ประเทศไทยตอนนี้ไม่มีความยุติธรรม ตื่นได้แล้ว** ก่อนที่จะสูญสิ้นพระพุทธศาสนาและประชาธิปไตรที่มีความยุติธรรมเป็นหลักปฎิบัติ
ReplyDeleteคนมีอำนาจขาดศีลธรรมขาดคุณธรรมสังคมบัานเมีองประชาชนเดือดร้อนคะ
ReplyDeleteผูัมีอำนาจขาดศีลธรรมขาดคุณธรรมประชาชนสังคมบัานเมืองเดือดรัอนคะ
ReplyDelete