ท่าดีแต่ทีเหลว

ท่าดี(แต่)ทีเหลว

วันนี้ผมได้อ่านบทความของผู้ที่มีฉายาว่า ผู้เป็นอิสระจากความรู้ ความตื่น

ความเบิกบาน(แปลให้ดีนะครับ) ตอนแรกเข้าใจว่า คงจะได้ข้อมูลใหม่ๆ ที่จะทำ

ให้ประเทืองปัญญา แต่พออ่านไป ประโยคก็แล้ว สองประโยคก็แล้ว จนในที่สุด เมื่ออ่านจนจบ ผมก็ยังงงว่า ผมได้อะไรจากข้อเขียนนี้บ้างไหม

แหม ก็ท่านขึ้นหัวเรื่องซะดิบดีว่ามีคนพยายามจะทำลายท่านอย่างน่าละอาย

ผมก็รีบติดตาม เพราะคิดว่าต้องได้หลักฐานชัดเจนแน่ แล้วท่านก็บอกต่ออีกว่า

- มีคนส่งคนมาสมัครบวชที่ท่าน(แล้วเขาจะได้คำสอนอะไรไหมเนี่ย)

- มีคนมาสืบเอา ความผิดพลาดของท่าน(อย่ากลัวเลย ทองแท้ไม่กลัวไฟ)

- ส่งคนมาหาช่องทางเข้าวัดตอนตีหนึ่งหรือส่งเครื่องบินเล็กติดกล้องมา

บินถ่ายรูป ทั่วบริเวณวัด

จากนั้นท่านก็บรรยาย ไปอีกสารพัดว่า เขาพยายามจะเล่นงานท่าน อย่างโน้น อย่างนี้ แถมด่าว่าเขาหน้าตัวเมียซะอีก ผมก็ยังนึกว่าท่านมีหมัดเด็ด ที่ไหนได้ ลงท้ายบอก เสียดายเด็กวัด ถ่ายรูปไว้ไม่ได้ อ้าว แสดงว่าไอ้ที่ว่ามาทั้งหมดนี่ ไม่มี

หลักฐานซะงั้น เฮ้อ กรรม นึกว่าจะได้ข้อมูลเป็นคุณค่าทางวิชาการสักหน่อย แต่

ก็คว้าน้ำเหลว

โถ ท่าน อย่าว่าผมสอนเลยนะครับ พูดลอยๆยังงี้ใครก็พูดได้ เกิดฝ่ายโน้น เขาเขียนบ้างหล่ะว่า ท่านปองร้ายเขา เอาระเบิดไปปากำแพงวัด รุมซ้อมเด็กวัด และ

ฯลฯ แล้วลงท้าย(แบบท่าน)ว่า เสียดาย ถ่ายรูปไม่ทัน ท่านจะว่าไงหล่ะ

ตั้งแต่จำความได้ คุณพ่อคุณแม่ผม จะพาผมเข้าวัด ไปทำบุญตักบาตร ผมเคย

ถามท่านว่า ทำไมผมต้องกราบพระ ไหว้พระ ท่านบอกว่า พระคือผู้ประเสริฐ สอน

ให้เราทำความดี ท่านเป็นลูกพระพุทธเจ้า ท่านมีศีลบริสุทธิ์ เอ ผมชักไม่ค่อยแน่ใจ

แล้วว่าการกล่าวหาลอยๆนี่จะผิดศีลหรือปล่าวครับ ที่สำคัญอันนี้คุณพ่อคุณแม่ไม่

ได้สอน แต่ผมคิดเองว่า หากเป็นผม ผมมีเรื่องในครอบครัว ผมก็จะให้เรื่องจำกัด อยู่แต่ในครอบครัว ไม่ใช่เอาเรื่องในครอบครัวไปเล่าให้คนบ้านอื่นฟัง แล้วก็ให้

เขามาจัดการเรื่องในครอบครัวเรา แต่ที่ท่านทำนี่ผมว่าแปลกนะ เรื่องของพระ

ที่มีศีลถึงสองร้อยยี่สิบเจ็ดข้อ แต่ไปดึงเอาฆราวาสที่ถือศีลห้า(ไม่แน่ใจว่าจะครบ

หรือเปล่า) ให้มาตัดสิน ทั้งที่พระก็มีวิธีการของพระอยู่แล้ว ตามพระวินัยก็