จุดจบของนักรบ

จุดจบของนักรบ


            จากการที่พระไตรปิฎกของเรานั้น เป็นคลังของสรรพวิชา เป็นขุมทรัพย์
แห่งความรู้อย่างแท้จริง พระเดชพระคุณหลวงพ่อทั้งสอง จึงย้ำนักย้ำหนาให้
ศึกษาพระไตรปิฎกให้ดี(นี่คืออีกเรื่องหนึ่งที่ผมงุนงงสงสัย พวกที่บอก
ว่าวัดพระธรรมกายสอนผิดๆ ตั้งแต่ผมเข้าวัดมาหลายสิบปี ท่านก็สอน
แต่ให้ผมอ่านพระไตรปิฏก) ด้วยความเคารพในครูบาอาจารย์ หากมีเวลา
ผมจึงไม่พลาดที่จะคว้าพระสูตรขึ้นมาอ่าน
            ดูสารบัญแล้วเห็นว่าช่วงนี้มีเรื่องรบรากัน เลยหาดูว่าจะมีเรื่องอะไร
ที่เกี่ยวข้องกับการรบบ้างไหมแล้วก็พบพระสูตรที่น่าสนใจ ชื่อว่า
                        โยธาชีวสูตร ว่าด้วยปัญหาของนักรบอาชีพ


            กล่าวโดยย่อ พระสูตรนี้เป็นเรื่องของนักรบอาชีพ เข้าไปถามพระพุทธองค์
ว่า พวกอาจารย์รุ่นก่อนๆของตนล้วนแต่บอกว่า หากนักรบคนใดมุ่งมั่นฆ่าคน
ให้มากยิ่งมากเท่าไร เมื่อตายไปจะได้ไปเป็นสหายของเทวดา ในเรื่องนี้พระองค์
มีความเห็นอย่างไร พระบรมศาสดาก็นิ่งไม่ตอบ ห้ามอยู่ จนกระทั่งครั้งที่ 3
พระองค์เห็นว่าอยากรู้นักใช่ไหม เลยตอบให้ชัดๆไปเลยว่า ลองคิดดูนะว่า หาก
ใครที่คิดจะฆ่าผู้อื่น ต้องตั้งจิตไม่ดีไว้แล้วว่าจะฆ่าเขาอย่างไร จะฟัน จะแทง จะ
ทรมาน จะใช้อาวุธอะไร ทำวิธีไหน รับรองตายไปมีคติแค่สองคือ นรก กับ
การมาเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน


            พอพระบรมศาสดาตรัสเสร็จ นักรบอาชีพท่านนี้ น้ำตาไหลพรากๆ
เสียอกเสียใจว่าถูกคนรุ่นก่อนๆหลอกลวง  เกิดความซาบซึ้งในธรรมะของ
พระองค์ว่าประดุจหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด จุดประทีปในที่มืด บอก
ทางแก่คนหลงทาง ว่าแล้วก็เลยขอถือพระรัตนตรัยเป็นสรณะจนตลอดชีวิต
            อ่านเรื่องราวจบ ภาพที่เกิดในใจของผมคือ การรบอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน
ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ปล่าวครับ ไม่ใช่การรบในสนามรบทั่วไป ไม่ได้ใช้ปืนผา
หน้าไม้ แต่เป็นการรบในกระดานชนวนอิเลคทรอนิค(ก็คอมพิวเตอร์นี่แหละ)
ผมนึกถึงนักรบที่ถูกพรรคพวกหลอกว่า ให้กล่าวร้ายพระสงฆ์ ให้ห่ำหั่นคน
ที่ไม่เห็นด้วยกับตน ยิ่งเล่นงานได้หลายๆองค์ยิ่งเป็นการดี ใช้คำหยาบคาย
ด่าว่าพระสงฆ์ มีการเปรียบเปรยราวท่านไม่ใช่มนุษย์ ทั้งที่ท่านเป็นผู้มีศีล
มากกว่าตนไม่รู้กี่เท่า บางคนก็ทะนงตนว่ามีความรู้มากกว่า บางคนก็ทะนง
ตนว่าตนเองมีศักดิ์มีฐานะที่สูงกว่า บางคนแม้กายจะเป็นพระแต่การกระทำ
กลับสวนทางเพศภาวะของตน แล้วยังกล้าประกาศตนจ้วงจาบพระมหาเถระ
สนับสนุนผู้ทำผิด บางคนก็กล้าให้ร้าย กล่าวคำเท็จต่อครูบาอาจารย์ในที่
สาธารณะโดยปราศจากความละอาย  บางคนก็ใช้ความน่าเชื่อถือว่าตนเอง
จบกฎหมายออกมาชี้นำสังคมให้เห็นผิด บางพวกเมื่อถูกยกว่าเป็นปราชญ์
ก็เลยทะนงตน ออกมาถล่มพระผู้ใหญ่อุตลุด


            ผมนึกถึงภาพว่าบุคคลเหล่านี้ แต่ละวันแต่ละคืนที่ล่วงผ่านไป คง
จะคิดแต่วิธีการ คิดแต่คำพูดที่จะมาจัดการชี้นำสังคมให้เห็นผิดตามไปด้วย
ในใจนั้นคงสั่งสมความหมองมากเข้ามากเข้าไปทุกที  หรือบางคนคงไม่ใช่
หมองแล้ว คงเป็นความมืดดำ จนยากจะเกินเยียวยา
            นักรบในพระสูตรยังมีบุญที่ได้พบพระบรมศาสดา ได้มีโอกาสฟัง
ธรรมแล้วตรองตาม จนเกิดสัมมาทิฏฐิ แต่นักรบที่ผมกำลังกล่าวถึงจะ
มีใครหนอ ไปชี้ทางสว่างให้ ว่าการกระทำนั้นมันบาปมหันต์ในการที่
ไปว่าร้ายผู้มีศีลมากกว่าตน ใครหนอจะเป็นผู้ไปเขี่ยเอาธุลีในดวงตาให้
หลุดออกไปได้
            เป็นห่วงครับ เป็นห่วงจริงๆ ว่าจุดจบของชีวิตหลังความตาย 
มีคติน่ากลัวครับ น่ากลัวยิ่งกว่านักรบในพระสูตรเสียอีก

อเวจีมหานรก


 Cr.ปรัศนี
จุดจบของนักรบ จุดจบของนักรบ Reviewed by asabha072 on 2:22 PM Rating: 5

No comments:

Powered by Blogger.