หลวงพ่อสอนอะไร(ตอนที่ ๔๓) หลักในการทำงาน (๓) เกี่ยวกับเรื่องเงิน
หลวงพ่อสอนอะไร(ตอนที่ ๔๓)
หลักในการทำงาน (๓)
เกี่ยวกับเรื่องเงิน
ดังนั้นในการบริหารการเงินจึงเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ ยิ่งการทำงานในต่างประเทศซึ่งมีระเบียบ ข้อกำหนดที่รัดกุม ยิ่งต้องให้ความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น
หลวงพ่อทัตตชีโว ท่านจะหมั่นสอบถามเรื่องการใช้จ่าย เพราะเป็นห่วงว่า ลูก ๆ จะอยู่กันอย่างไร ตามวิสัยของพ่อที่ปล่อยลูกออกจากอก ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ประโยคที่จะได้ยินอย่างสม่ำเสมอจากท่านคือ
“ เป็นไงลูกเอ้ย การเงินมีปัญหาไหม รายรับ รายจ่าย ลงตัวหรือเปล่า ”
“ ยังจัดสรรลงตัวครับหลวงพ่อ ”
“ ดูให้ดีนะ จะใช้จะจ่ายอะไร ก็ให้ดูความจำเป็นเป็นหลัก ไม่ฟุ่มเฟือย แต่ก็ไม่ตระหนี่จนไม่ยอมทำอะไร ”
“ ครับ หลวงพ่อ ส่วนใหญ่ก็จะหนักไปในการพัฒนา ปรับปรุงวัด และค่าพัฒนาบุคลากรเรื่องการศึกษาแหละครับ ”
“ ดี ในเรื่องการพัฒนาคน มันเป็นเรื่องจำเป็น ไม่ว่าเป็นเจ้าหน้าที่เราเองหรือญาติโยมก็ตาม หากเป็นเรื่องของการพัฒนาเต็มที่นะ แล้วเอ็งจัดการเรื่องเงินยังไง ”
“ ผมในฐานะเจ้าอาวาสกับพระอีกหนึ่งรูป จะมีอำนาจเพียงแค่เซ็นเช็คสั่งจ่าย แต่จะไม่มีโอกาสได้จับเงินเลย ส่วนเหรัญญิกจะเป็นคนเก็บเช็คและเก็บเงิน ก็จะมีหน้าที่เก็บเงินและทำเช็ค แต่ไม่มีอำนาจเซ็นเช็คสั่งจ่าย แยกส่วนกันชัดเจนครับผม ”
“ ดี ทำอะไรขอให้รัดกุม ให้ยึดถือกฎหมายของที่นั่นเป็นหลัก หลวงพ่อขอถามเป็นความรู้ว่าที่นั่นมีระบบการควบคุมเรื่องการเงินอย่างไร ”
อาตมาได้กราบเรียนท่านว่าจริง ๆ แล้วมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ แต่ขอสรุปให้ท่าน สั้น ๆ ว่า
“ ในเรื่องของการเงิน จะมีการดูแลกันหลายชั้น กล่าวคือ
ชั้นที่ ๑ ในวัดเองก็จะมีฝ่ายการเงินที่คอยดูแล ควบคุม รายรับ รายจ่าย
ชั้นที่ ๒ จะมีเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางของภาคพื้นอเมริกา มาคอยตรวจสอบเป็นระยะ ๆ
ชั้นที่ ๓ จะมีเจ้าหน้าที่ผู้สอบบัญชี(CPA) คอยดูแล ตรวจสอบ ก่อนจะยื่นส่งให้ทางสรรพากร
นอกจากนี้ก็จะมีเจ้าหน้าที่ของทางธนาคาร จะคอยมาสอบถามหากเขาเห็นว่าเรามีการใช้จ่ายหรือมีรายรับที่มากกว่าปกติครับหลวงพ่อ ”
“ ดีมาก จะทำอะไรก็ตามต้องให้โปร่งใส ให้ตรวจสอบได้ อย่าให้ใครมาระแวงสงสัยเราได้ หากมีปัญหาเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ แม้ไม่ผิดก็จะถูกมองไม่ดี ทำไงได้ ของมันจำเป็นต้องใช้ แต่เมื่อต้องใช้ก็ต้องใช้ให้เป็น ให้เราเป็นนายของเงิน อย่าให้เงินมาเป็นนายของเราจำไว้ ”
จากการที่ยึดมั่นเอาหลวงพ่อทั้งสองเป็นต้นแบบ คือ การอุทิศชีวิตให้กับงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย จึงทำให้พระลูกชายทุกรูป ไม่เคยคิดจะติดในลาภสักการะ เมื่อเห็นปัจจัยก็ดีใจที่จะได้เอามาทำงาน ไม่เคยคิดว่าจะต้องสะสมเพื่ออะไร
ขนาดพระลูกชายยังคิดกันแบบนี้ แล้วหลวงพ่อทั้งสองจะสนใจอะไรกับสิ่งของเงินทองเหล่านั้น ท่านมองว่า ปัจจัย เป็นเพียงอุปกรณ์ในการสร้างบารมีเท่านั้นเอง
โปรดเถิด อย่าได้เอาใจของปุถุชน มาวัดใจของผู้ที่ปรารถนาความหลุดพ้นเลย
ขอขอบคุณภาพจากgoogle.com
อาสภกันโต ภิกขุ
๒ ก.ย. ๕๙
หลวงพ่อสอนอะไร(ตอนที่ ๔๓) หลักในการทำงาน (๓) เกี่ยวกับเรื่องเงิน
Reviewed by asabha072
on
5:06 PM
Rating:
ยิ่งอ่านยิ่งปลื้ม ยิ่งอ่านยิ่งรักหลวงพ่อเจ้าค่ะ ท่านเป็นต้นแบบต้นบุญในการสร้างบารมีของพวกเราจริงๆ น้อมกราบบูชาคุณหลวงพ่อทั้งสองด้วยความรักและเคารพยิ่งเจ้าค่ะ กราบสาธุๆๆ
ReplyDeleteยิ่งอ่านยิ่งปลื้ม ยิ่งอ่านยิ่งรักหลวงพ่อเจ้าค่ะ ท่านเป็นต้นแบบต้นบุญในการสร้างบารมีของพวกเราจริงๆ น้อมกราบบูชาคุณหลวงพ่อทั้งสองด้วยความรักและเคารพยิ่งเจ้าค่ะ กราบสาธุๆๆ
ReplyDeleteน้อมจิตกราบบูชาพระเดชพระคุณหลวงพ่อทั้งสองด้วยความเคารพยิ่ง กราบขอบพระคุณที่มีเมตตาต่อลูก ๆทุกคนคอยพร่ำสอนแนะนำแต่สิ่งดี ๆให้มาตลอดครับ
ReplyDeleteใช่เลยค่ะ อย่าเอาทางโลกมาตัดสิน ความคิดทางธรรม ...
ReplyDeleteบุคคลผู้ได้ใกล้ชิดพระเดชพระคุณหลวงพ่อทั้งสองต่างก็ได้รับรู้รับทราบคุณธรรมความดีต่างๆ ใครที่รับสื่อเลือกข้างที่ให้ข้อมูลบิดเบือน แล้วกล่าวโจมตีหลวงพ่อพึงระวังวิบากกรรมกันนะคะ
ReplyDeleteเงินทองของนอกกาย ไม่ตายหายาก..ชิหาย(สำหรับผู้มีบุญน้อย)
ReplyDeleteสาธุ
ReplyDeleteขอกราบอนุโมทนาบุญด้วยครับ
ReplyDelete"โปรดเถิด อย่าได้เอาใจของปุถุชน มาวัดใจของผู้ที่ปรารถนาความหลุดพ้นเลย" เห็นด้วยกับพระอาจารย์อย่างยิ่งค่ะ เพราะได้ยินหลวงพ่อทั้ง 2 รูป และคุณยายอาจารย์เน้นย้ำให้ระวังเรื่อง "สตรี, สตางค์ และ บุรุษ กับ แบงค์"เสมอ ๆ ค่ะ
ReplyDeleteสาธุค่ะ
ReplyDeleteกราบอนุโมทนาบุญกับหลวงพี่ค่ะ ที่ถ่ายทอดความรู้ดีดี มาสู่ยอดนักสร้างบารมีทั่วโลกค่ะ
ReplyDeleteหลวงพ่อท่านสอนดีมากครับ ชอบตรงนี้
ReplyDeleteทำอะไรก็ตามต้องให้โปร่งใส ให้ตรวจสอบได้ อย่าให้ใครมาระแวงสงสัยเราได้ หากมีปัญหาเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ แม้ไม่ผิดก็จะถูกมองไม่ดี ทำไงได้ ของมันจำเป็นต้องใช้ แต่เมื่อต้องใช้ก็ต้องใช้ให้เป็น ให้เราเป็นนายของเงิน อย่าให้เงินมาเป็นนายของเราจำไว้
คำสอนอันทรงคุณค่าควรอยู่คู่โลกใบนี้ไปอีกนานแสนนานถึงลูกถึงหลานและอีกต่อๆไปเก็บไว้เป็นประวัติศาสตร์ล้ำค่ายิ่ง..ใครศึกษาจะได้เข้าถึงธรรมกันได้โดยสะดวกสบายง่ายดายโดยทั่วกัน...
ReplyDeleteสาธุ
ReplyDeleteชาววัดโชคดีมีบุญที่ได้เข้าวัด ได้พบหลวงพ่อทั้งสอง ทุกอย่างมีแต่หลักวิชชาให้เราเดินทางถูก เป็นบัณฑิตทั้งโลกและทางธรรมเอย.
ReplyDeleteกราบพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เมตตาสั่งสอนครับ
ReplyDeleteกราบ กราบ กราบ สาธุ สาธุ สาธุ อย่าเอาความคิดของคนมาวัดใจพระผู้ตอ้งการความหลุดพ้นจากวัฏตะเลย
ReplyDeleteกราบ กราบ กราบ สาธุ สาธุ สาธุ อย่าเอาความคิดของคนมาวัดใจพระผู้ตอ้งการความหลุดพ้นจากวัฏตะเลย
ReplyDeleteจากการที่ยึดมั่นเอาหลวงพ่อทั้งสองเป็นต้นแบบ คือ การอุทิศชีวิตให้กับงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย ทำให้ลูก ๆ ชาววัดพระธรรมกายทำงานได้อย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ
ReplyDeleteกราบขอบพระคุณหลวงพ่อเป็นอย่างสูงค่ะ
ReplyDeleteที่เอาคำสอนดีๆธรรมะดีๆมาให้ลูกๆค่ะ
ยิ่งอ่านยิ่งปลื้ม ขอน้อมนำไปสู่การปฏิบัติครับ
ReplyDeleteหลวงพ่อท่านเมตตาให้หลักการวิธีการจัดการเรื่องการเงินอย่างรอบคอบ และท่านยังคอยติดตามถามไถ่ให้คำปรึกษา หมู่คณะนี้จึงเป็นต้นบุญต้นแบบในการบริหารการเงินพระศาสนา
ReplyDeleteพี่ชายชอบมากๆ ทั้งๆที่เขาไม่ค่อยชอบเรื่องธรรม
ReplyDeleteพี่ชายชอบมากๆ ทั้งๆที่เขาไม่ค่อยชอบเรื่องธรรม
ReplyDeleteเป็นคำสอนที่ดีมากๆๆเลยค่ะ สาธุๆๆ
ReplyDeleteรู้สึกภูมิใจและปลื้มๆๆๆ มากได้มาพบครูบาอาจารย์หลวงพ่อทั้งสองให้หลักวิชชาการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องค่ะ ขอกราบขอบพระคุณด้วยความเคารพอย่างสูงเจ้าค่ะ
ReplyDeleteดีใจ ปลื้มใจมากๆค่ะที่มีครูบาอาจารย์คอยอบรมสั่งสอนให้เราเก่งและดี ทั้งทางโลกและทางธรรม..สาธุ๊
ReplyDeleteโอวาทอันทรงคุณค่า นำธรรมะมาสอนในเชิงปฏิบัติได้อย่างยอดเยี่ยม เข้าใจง่าย กราบอนุโมทนาบูญด้วยความเคารพ
ReplyDeleteโอวาทอันทรงคุณค่าปลื้มใจที่สุดค่ะเราเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของหลวงพ่อธัมมชโยค่ะ
ReplyDeleteสาธุค่ะ
ReplyDeleteปลื้มใจในคุณครูบาอาจารย์ของเราจริง ๆ
ReplyDeleteปลื้มใจในคุณครูบาอาจารย์ของเราจริง ๆ
ReplyDeleteสาธุ
ReplyDeleteเป็นธรรมะที่ให้ข้อคิดได้ดีมากๆค่ะ "ให้เราเป็นนายเงิน อย่าให้เงินเป็นนายเรา" ปัญหาทุกวันนี้ส่วนใหญ่ล้วนมาจากเรื่องผลประโยชน์ทั้งสิ้น เตือนสติได้ดีมากเลยค่ะ สาธุ
ReplyDeleteสาธุ
ReplyDeleteสาธุค่ะ รักพระพ่อทั้งสองท่าน
ReplyDeleteสาธุครับ
ReplyDeleteอย่าเอาหัวใจของปุถุชน..เอามาวัดใจผู้ปารถนาความหลุดพ้น..อนุโมทนาสาธุครับ
ReplyDeleteอย่าเอาหัวใจของปุถุชน..เอามาวัดใจผู้ปารถนาความหลุดพ้น..อนุโมทนาสาธุครับ
ReplyDeleteถูกต้อง ชัดเจน โปร่งใสครับ
ReplyDeleteสาธุ สาธุ สาธุครับ
ReplyDeleteคำสอนของครูบาอาจารย์ของพวกเราลึกซึ้งยิ่งนัก เพียงเราลงมือปฏิบัติก็จะเกิดผลอย่างที่ท่านสอนจริงๆ ขอให้ทำจริง ทำให้ถูกหลักตามที่ท่านเทศน์สอน ผลสำเร็จก็จะบังเกิดขึ้นแน่นอน
ReplyDeleteใช่เลยค่ะ อย่าเอาทางโลกมาตัดสิน ความคิดทางธรรม ...
ReplyDeleteชื่นชใพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เมตตาลูกตลอด
ReplyDeleteสาธุๆๆ
ReplyDeleteสาธุๆๆ กราบอนุโมทนาบุญครับ
ReplyDelete"พระเดชพระคุณหลวงพ่อทั้งสอง" สุดยอดของครูบาอาจารย์ ที่เราแสวงหา"
ชอบประโยคสุดท้ายครับ "อย่าได้เอาใจของปุถุชน มาวัดใจของผู้ที่ปรารถนาความหลุดพ้นเลย"
ReplyDeleteอนุโมทนาบุญครับ
สาธุค่ะ
ReplyDeleteหลวงพ่อทั้ง2ของเราสุดยอดที่สุด
ReplyDeleteครูบาอาจารย์ทั้งสองท่าน สุดยอด สาธุๆๆครับ
ReplyDeleteพระเดชพระคุณหลวงพ่อทั้งสอง...เป็นครูผู้ยิ่งใหญ่...เป็นผู้นำในการสร้างบุญบารมีทั้งปวง...สาธุเจ้าค่ะ
ReplyDeleteเงินเป็นของกลาง เป็นวัตถุสำหรับใช้สร้างบารมีสร้างบุคคลากร สร้างศาสนาสถาน ปลื้มใจได้ทำบุญกับวัดพระธรรมกายกับหลวงพ่อได้นำปัจจัยไปใช้ประโยชน์สุดได้บุญการสร้างมากสุด สาธุ
ReplyDeleteสาธุ. กราบ
ReplyDeleteสาธุๆ
ReplyDeleteสาธุๆๆ
ReplyDeleteกรรมมีจริงเพราะฉะนั้นทำความดีเอาไว้เยอะๆ
ReplyDeleteรู้สึกปลื้มเลยค่ะ ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านสอน ให้เราเป็นนายของเงิน ไม่ใช่เงินเป็นนายเรา
ReplyDeleteสาธุเจ้าค่ะ
ReplyDeleteสาธุเจ้าค่ะ
ReplyDeleteใช้เงินไม่เป็นก็เป็นขี้ข้ามันไปตลอดชีวิต
ReplyDeleteใช้เงินไม่เป็นก็เป็นขี้ข้ามันไปตลอดชีวิต
ReplyDeleteกราบแทบเท้าหลวงพ่อทั้งสองท่าน ด้วยความเคารพยิ่งครับ
ReplyDeleteกราบแทบเท้าหลวงพ่อทั้งสองท่าน ด้วยความเคารพยิ่งครับ
ReplyDeleteสาธุค่ะ
ReplyDeleteสาธุๆๆค่ะ ท่านสอนให้เรารู้ ผิด ชอบ ชั่ว ดี
ReplyDeleteสาธุๆๆค่ะ ท่านสอนให้เรารู้ ผิด ชอบ ชั่ว ดี
ReplyDeleteสาธุ
ReplyDelete