หลวงพ่อสอนอะไร(ตอนที่๔๙) มองที่ตน
หลวงพ่อสอนอะไร(ตอนที่๔๙)
มองที่ตน
หากเราดูข่าวเป็นประจำ จะพบว่าสังคมทุกวันนี้ มีแต่การจ้องจับผิดกัน เอาความผิดพลาดของผู้อื่นมาประจาน ทำให้เกิดปัญหาตามมาอีกมากมาย เช่น เด็กไม่เคารพผู้ใหญ่ ลูกน้องไม่เคารพหัวหน้า ส่งผลให้การให้เกียรติกันหมดไป
หลวงพ่อทัตตชีโวท่านเคยให้ข้อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า
“ ในครอบครัวใดก็ตามที่พ่อแม่ไม่เป็นต้นแบบให้ลูก ตัวเองก็จะสอนลูกไม่ได้ เมื่อสอนลูกไม่ได้ เด็กก็จะมองข้อบกพร่องของพ่อแม่ แล้วในที่สุดความเคารพก็จะหมดไป ”
หลวงพ่อเคยเล่าเรื่องผักบุ้งลอยฟ้าให้ลูก ๆ ในองค์กรฟังบ่อย ๆ เพื่อเป็นข้อคิด เรื่องมีอยู่ว่า ที่ร้านอาหารตามสั่ง มีทั้งคนไทยและคนต่างชาตินั่งทานอาหารกันอยู่ เวลาเขาผัดเสร็จ เขาก็จะส่งสัญญาณว่าจะโยนแล้วนะ พ่อครัวก็จะโยนผัดผักบุ้งไปในอากาศ บริกรก็จะรีบเอาจานไปรับ หากรับได้ ปรากฏว่าคนต่างชาติ ปรบมือกันใหญ่ คนไทยนั่งเฉย แต่พอจานไหนที่พลาดรับไม่ได้ ผักบุ้งหล่นที่พื้น คนไทย ปรบมือ เฮ ชอบใจกันใหญ่ คนต่างชาติจะนิ่งเงียบ
หลวงพ่อได้สรุปให้ฟังว่า
“ นี่คือทัศนคติที่เสีย ๆ ของเรา คือ เวลาเห็นความผิดพลาดของผู้อื่น กลับกลายเป็นเรื่องที่เราพออกพอใจ ทำให้คอยมองหาแต่ความหายนะของผู้อื่น จนเกิดอุปนิสัยในการจ้องจับผิด ฉะนั้น เวลาเกิดอะไรขึ้นในสังคม จึงมักจะโทษผู้อื่น เป็นการปัดสวะให้พ้นตัว โดยไม่สนใจว่าใครจะเดือดร้อนแค่ไหน ขอให้ตนเองไม่ติดร่างแหเป็นพอ ”
สิ่งที่อาตมาประทับใจครูบาอาจารย์อีกเรื่องหนึ่งคือ ทัศนคติหรือมุมมองของท่าน เวลาเกิดอะไรขึ้นหลวงพ่อทั้งสองไม่เคยโทษใคร ท่านจะย้อนมาดูตัวเองตลอด รวมทั้งสอนให้พวกเราหัดมองตนเองเป็นสำคัญ
ตั้งแต่เริ่มคิดจะสร้างวัด ท่านก็ตั้งคำถามแล้วว่า
“ ทำไมคนไม่เข้าวัด ”
โดยทั่วไปก็มักจะตอบว่า เพราะคนขาดศีลธรรมบ้าง เพราะคนติดเรื่องไร้สาระบ้างหรืออะไรอย่างอื่นที่จะเป็นการมองที่ผู้อื่น ซึ่งประเด็นนี้ หลวงพ่อทัตตชีโวเคยให้แง่คิดว่า
“ การโทษผู้อื่น มันไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรเลย ไม่ได้นำมาสู่การแก้ปัญหา แต่หากย้อนมาดูที่ตัวเรา เช่น เวลาจะสร้างวัด มาตั้งสมมุติฐานที่ตัวเราว่า คนไม่เข้าวัดเพราะวัดไม่น่าเข้า อย่างนี้จะทำให้เราตั้งคำถามต่อไปได้ว่า แล้วจะทำอย่างไรให้วัดน่าเข้า ”
หลวงพ่อยังได้เมตตาเล่าต่อไปว่า
“ แม้แต่เรื่องการบวช หลวงพ่อได้ยินคนพูดมาเยอะ พระไม่ดีอย่างนั้น ไม่ดีอย่างนี้ พอบอกเขาว่า อยากได้พระดีให้ได้ดังใจ ทำไมไม่ออกบวช แล้วทำตัวให้ได้ดังใจ ตามที่ตนเองอยากได้พระในอุดมคติ เขาก็จะเงียบและหลีกไป
หลวงพ่อตระเวนหาครูบาอาจารย์มาเยอะ จนได้มาพบยาย แม้ยายไม่ใช่พระ แต่คำสอนของยาย ทำให้หลวงพ่ออยากบวช อยากเป็นพระภิกษุที่สมบูรณ์แบบตามสามัญญผลสูตร ”
หลวงพ่อเคยเล่าให้ลูก ๆ ในองค์กรฟังว่า
“ หากเราไม่รู้ว่าจะใช้หลักอะไรในการฝึกตน ก็ลองนึกง่าย ๆ ว่า หากมีใครสักคน ที่ทำตัวเหมือนเรานี่ ตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งเข้านอน ทำอะไรทุกอย่างเหมือนที่เราทำเลย แล้วเรามีความรู้สึกว่าอยากกราบเจ้าคนนั้นเหลือเกิน นั่นแสดงว่า เราฝึกตัวใช้ได้แล้ว ”
แม้ในภาวะปัจจุบันที่มีอดีตคนเคยอาศัยวัด อาศัยหลวงพ่อ ออกมาใส่ร้าย จ้วงจาบหลวงพ่อตลอด แต่หลวงพ่อท่านก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร ไม่ได้ตำหนิเขาแม้แต่คำเดียว ท่านกลับมองว่าเป็นความผิดพลาดของท่านเอง
“ เรื่องนี้เป็นความบกพร่องของหลวงพ่อเอง ถามว่าเห็นไหมว่าเขาจะเป็นอย่างนี้ ก็เห็นนะว่าคนมีเชื้อ แต่นึกถึงว่า ถ้าเขามีความรู้ความสามารถ จะได้เอาประโยชน์ตรงนี้มาทำงานพระพุทธศาสนา เลยกลายเป็นว่าหลวงพ่อรู้ได้ ไม่รู้เสีย ”
ก็ขอฝากพวกเราด้วย ในฐานะนักสร้างบารมี ขอให้หันหน้ามาจับผิดตนเอง เพื่อเราจะได้แก้ไขข้อบกพร่องให้ได้มากที่สุด ภพชาติต่อไป จะได้สร้างบารมีได้สะดวกยิ่ง ๆ ขึ้นไป
ขอขอบคุณภาพจาก google.com
อาสภกันโต ภิกขุ
๙ ก.ย. ๕๙
หลวงพ่อสอนอะไร(ตอนที่๔๙) มองที่ตน
Reviewed by asabha072
on
6:13 AM
Rating:
ผมว่าไอ้คนนั้นนะ"ดื้อที่สุด"เลยครับพระอาจารย์... คนในกระจกนะ
ReplyDelete😀
Deleteโชคดีที่เกิดมามีครูบาอาจารย์ที่ทรงคุณธรรมอันประเสริฐยิ่ง กราบน้อมรับโอวาทเจ้าค่ะ กราบสาธุๆๆ
ReplyDeleteทุกวันนี้ลองจับผิดตัวเอง เจอเยอะจริงๆครับ บางครั้งก็เกิดความไม่มั่นใจว่าจะดีพอเป็นตัวอย่างให้ลูกๆ หรือเปล่า อีกอย่างตอนเด็กๆ ทำแสบกับพ่อแม่ไว้เยอะ กลัวกรรมมันตามทัน เป็นอีกเหตุหนึ่งที่ประกอบการตัดสินใจไม่ออกไปแต่งงานมีครอบครัว
ReplyDeleteปล. มุมมองผมอาจจะไม่เหมือนคนอื่นบ้างนะครับ แต่คิดอย่างนี้จริงๆ
สาธุค่ะ
Deleteสาธุ
ReplyDeleteเป็นคำสอนที่ทรงคุณค่ามหาศาล
ReplyDeleteสาธุค่ะ 😀
Deleteขอกราบอนุโมทนาบุญเจ้าค่ะ ได้อ่านคำสอนจากหลวงพ่อ ผ่านประสบการณ์ของพระอาจารย์ทีไร ทำให้รู้สึกว่ามุมมืด ต่างๆที่มองไป มันสว่างขึ้นทุก ๆ ครั้งเลยเจ้าค่ะ อ่านไปก็สามารถอมยิ้มไปได้ทุกครั้งเลยค่ะ
ReplyDeleteขอกราบอนุโมทนาบุญเจ้าค่ะ ได้อ่านคำสอนจากหลวงพ่อ ผ่านประสบการณ์ของพระอาจารย์ทีไร ทำให้รู้สึกว่ามุมมืด ต่างๆที่มองไป มันสว่างขึ้นทุก ๆ ครั้งเลยเจ้าค่ะ อ่านไปก็สามารถอมยิ้มไปได้ทุกครั้งเลยค่ะ
ReplyDeleteกราบขอบพระคุณในคำสอนดี ๆ ค่ะ
ReplyDeleteกราบขอบพระคุณเจ้าค่ะ ที่ให้คำสอนอันทรงคุณค่ะมากๆค่ะ
ReplyDeleteกราบขอบพระคุณหลวงพ่อครับ
ReplyDeleteดูหนังดูละคร แล้วย้อนดูตน
ReplyDeleteกราขอบพระคุณและอนุโมทนา สาธุเจ้าค่ะ นาวว์เทอต้องมองย้อนไปใตนมา๊ก มาก ๆๆๆ นะจ๊ะนาาว์
ReplyDeleteลูกจะค่อย ๆ ฝึกตัว ติดตามหลวงพ่อไปเจ้าค่ะ
ReplyDeleteสาธุ
ReplyDeleteเยี่ยมเลยครับ บัณฑิตย่อมไม่มองเข้ามในสิ่งเล็กน้อย
ReplyDeleteกราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่ดครับ สาธุ สาธุ สาธุ
ReplyDeleteกราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่ดครับ สาธุ สาธุ สาธุ
ReplyDeleteสาธุๆๆครับ ขอฝึกตัวไม่เป็นเช่นมะนาว
ReplyDelete💐🙏🙏🙏
ReplyDeleteสาธุครับ
ReplyDeleteสาธุ กราบอนุโมทนายุญเจ้าค่ะ ปลื้มจังที่มีโอกาสได้พบครูดี
ReplyDeleteพระเดชพระคุณหลวงพ่อเมตตามากๆ สุดจะหาใดเปรียบปานเจ้าค่ะ
ReplyDeleteสาธุค่ะ เวลามีปัญหาเกิดขึ้นท่านให้ดูตัวเองเป็นอันดับแรก จะได้แก้ปัญหาได้ถูกต้อง
ReplyDeleteอนุโมทนาบุญสาธุสาธุ
ReplyDeleteสาธุครับ
ReplyDeleteใกล้จะถึงเวลาฟ้าหลังฝน
ReplyDeleteใกล้จะพ้นพาลภัยใส่ความให้
ใกล้ถึงคราว่าความเป็นเช่นไร
ใกล้คงได้พิสูจน์พูดความจริง
ใกล้จะถึงเวลาที่ฟ้าเปิด
ใกล้จะเกิดเปิดเผยเรื่องทุกสิ่ง
ใกล้จะถึงเวลาพวกพาดพิง
ใกล้จะยิ่งมั่นใจได้รู้กัน
ใกล้จะถึงเวลาฟ้าสดใส
ใกล้จะได้รวมใจที่สานฝัน
ใกล้จะหมดเวลาที่ฝ่าฟัน
ใกล้สุขสันต์ทั่วหน้าทั้งปฐพี...
ปลื้มกับคำสอนอันล้ำค่าของพระเดชพระคุณหลวงพ่อทั้งสองมาตลอดครับ
ReplyDeleteอ่านคำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อแล้วได้รู้หลักในการฝึกตัวเองเพิ่มขึ้นทุกวันๆ เลยเจ้าค่ะ
ReplyDeleteพระเดชพระคุณหลวงพ่อมีจิตเมตตา. สอนลูกศิษย์ดี9999..มีความกตัญญูรักวัดรักหลวงพ่อ คนอกตัญญู คนเดียว ให้ไปที่ชอบๆ
ReplyDeleteเคารพรักพระเดชพระคุณหลวงพ่อมากเลยเจ้าค่ะ
ReplyDeleteสาธุค่ะ
ReplyDeleteต้องฝึกตน จับผิดตน เพื่อทำตนให้เจริญยิ่งยิ่ง
ReplyDeleteชอบธรรมะดีๆที่หลวงพ่อสอนมากๆค่ะ กราบขอบพระคุณพระอาจารย์ที่เมตตาถ่ายทอดคำสอนนั้นให้พวกเราได้อ่านกันค่ะ
ReplyDeleteสาธุๆๆๆ ค่ะ
ReplyDeleteสาธุๆๆๆ ค่ะ
ReplyDeleteเป็นคำสอนที่ควรนำมาใส่ใจไว้ตลอดเวลา
ReplyDeleteเป็นบุญจริง ๆ ที่ได้พบและได้มีคุณครูบาอาจารย์ที่เลิศอย่างนี้
ReplyDeleteเป็นบุญจริง ๆ ที่ได้พบและได้มีคุณครูบาอาจารย์ที่เลิศอย่างนี้
ReplyDeleteกราบถวายความเคารพเจ้าค่ะเป็นบุญเหลือเกินที่ได้เกิดมาพบครูบาอาจารย์ที่ดีเลิศสุดๆ
ReplyDeleteเป็นคำสอนที่เราต้องเอาไปใช้เป็นแบบอย่าง..ในการฝึกฝน..อบรมตัวเอง..ให้ทำตามแบบอย่างที่ดี ของครูบาร์อาจารย์ครับ
ReplyDeleteเป็นคำสอนที่เราต้องเอาไปใช้เป็นแบบอย่าง..ในการฝึกฝน..อบรมตัวเอง..ให้ทำตามแบบอย่างที่ดี ของครูบาร์อาจารย์ครับ
ReplyDeleteหลวงพ่อสอนได้ดีมากๆๆเลยค่ะ
ReplyDeleteอนุโมทนาสาธเจ้าค่ะ
ReplyDeleteสาธุๆๆ กราบอนุโมทนาบุญครับ
ReplyDelete"ย้อนกลับมามองที่ตน"
วิสัยของบัณฑิต ย่อมฝึกฝนอบรมตนเองเป็นสำคัญ ไม่เพ่งโทษผู้อื่น เพราะแม้แต่ตนเองก็ยังไม่สมบูรณ์ไปทั้งหมด ดังนั้น ผู้มีปัญญาย่อมมองเห็นสิ่งรอบตัวล้วนเป็นธรรมะ แล้วน้อมนำมาพิจารณาเพื่อปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาตนเองให้สะอาดบริสุทธิ์ทั้งกาย วาจา และใจ จนถึงที่สุดฯ
กราบขอบพระคุณหลวงพ่อเจ้าค่ะ ที่ช่วยชี้แนะสิ่งดีๆให้กับลูกๆ
ReplyDeleteเป็นคำสอนที่มีคุณค่ามากๆ
ReplyDeleteเป็นคำสอนที่มีคุณค่าเเละลึกซึ้ง ผู้ที่นำไปปฏิบัติย่อมเกิดสุข เเละมีผลดีต่อการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง สาธุๆๆครับ
ReplyDeleteใช่จริงๆเจ้าคะ คนไทยชอบจับผิดกันจนเป็นนิสัย เห็นใครดีกว่าก็อิจฉาริษยา แทนที่จะส่งเสริม
ReplyDeleteกับทําลายเช่นนายมโน ศิษย์ที่ทรพีต่อคุณครูบาอาจารย์
น้อมรับโอวาทพระเดชพระคุณหลวงพ่อครับ
ReplyDeleteสาธุ
ReplyDeleteขอบคุณคำสอนของหลวงพ่อที่ถ่ายทอดมาถึงพวกเราครับ
ReplyDeleteสาธุๆๆค่ะ
ReplyDeleteอยากกินผักบุ้งลอยฟ้าครับ เอาแบบลอยมาพร้อมกะทะ+ตาหลิวด้วยชอบไม่เหมือนคนอื่นอ่ะ
ReplyDeleteอยากกินผักบุ้งลอยฟ้าครับ เอาแบบลอยมาพร้อมกะทะ+ตาหลิวด้วยชอบไม่เหมือนคนอื่นอ่ะ
ReplyDeleteใครอยากได้บุญก็ต้องมาร่วมกันสร้างบารมีให้ยิ่งๆขึ้นไปเพราะเวลาเหลือน้อยสำหรับชีวิตเรา
ReplyDeleteสาธุเจ้าค่ะ
ReplyDeleteสาธุเจ้าค่ะ
ReplyDeleteกราบอนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธุ
ReplyDeleteกราบอนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธุ
ReplyDeleteข้อคิดที่พระอาจารย์นำมาฝาก แต่ละข้อ อืม ใช่เลยครับ
ReplyDeleteเอาคำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อไปปฏิบัติด้วยตัวเอง เริ่มมองตัวเองมากขึ้น กราบขอบพระคุณหลวงพ่อเจ้าค่ะ
ReplyDeleteสาธุๆๆ
ReplyDeleteสาธุๆๆ
ReplyDeleteสาธุๆๆ
ReplyDelete