หลวงพ่อสอนอะไร(ตอนที่ ๕๐) มองลูกด้วยความเข้าใจ
หลวงพ่อสอนอะไร(ตอนที่ ๕๐)
มองลูกด้วยความเข้าใจ
ก่อนที่จะบวช อาตมาอาศัยอยู่กับโยมลุงโยมป้าที่หมู่บ้านจัดสรรเล็ก ๆ แห่งหนึ่งย่านรามอินทรา สังเกตเห็นลูกชายของคนข้างบ้านไม่ค่อยชอบขี้หน้าเรา ก็ไม่รู้สาเหตุ จนกระทั่งวันหนึ่ง ได้ยินเสียงแม่เขาดุลูกชายว่า
“ วัน ๆ เอาแต่ตะลอนๆ ไปเที่ยว กลับบ้านก็ดึกดื่น ไม่เห็นอยู่บ้านอยู่ช่อง ดูลูกคนข้างบ้านเขาสิ ไม่เห็นไปไหน เห็นนั่งอ่านหนังสือทั้งวัน ”
อ้าว งานเข้าเราสิ ด่าลูกแต่มายกเรา ลูกบ้านโน้นเลยพาลเกลียดขี้หน้าเราซะนี่ จะทำไง ก็คนมันไม่เหมือนกัน อาตมาเองเป็นคนชอบอ่านหนังสือทุกชนิด โดยเฉพาะกำลังภายใน เลยไม่อยากไปไหน ร้านเช่าหนังสือก็อยู่ใกล้บ้าน ก็ไปเช่าหนังสือมาอ่านทุกวัน เพลินไป และด้วยอานิสงส์ของการไม่เที่ยว เลยทำให้ได้มาบวชเป็นพระลูกชายของหลวงพ่อนี่แหละ
เมื่อมาบวชจึงได้เห็นว่า ทำไมลูก ๆ ในองค์กรจึงรักและเคารพหลวงพ่อทั้งสองมาก ก็เพราะท่านเข้าใจและรักพวกเรามาก ท่านไม่ได้ห่วงเราเพียงแค่ชาตินี้เท่านั้น แต่ท่านห่วงไปถึงการสร้างบารมีในภพชาติต่อ ๆ ไป จึงได้เคี่ยวเข็นให้สร้างบุญให้เต็มที่
อาตมาเคยเรียนถามหลวงพ่อทัตตชีโวว่า
“ หลวงพ่อครับ ผมเห็นบางครั้งหลวงพ่อต้องเตือนเจ้าหน้าที่คนนั้นบ่อย ๆ เขาก็ไม่เห็นจะปรับตัวเท่าไร ทำไมหลวงพ่อจึงยังทนสอนเขาอยู่ ”
“ เอ็งคิดว่า คนที่มันทิ้งบ้านทิ้งช่อง ไม่คิดจะมีผัว มีเมีย ในโลกนี้มันหาง่ายหรือวะ แค่มันคิดอย่างนี้ หลวงพ่อก็ให้คะแนนมันเต็มแล้ว เหลือแต่ว่าจะฝึกมันอย่างไร ตอนนี้ก็เป็นหน้าที่ของหลวงพ่อแล้วหล่ะ ”
คำตอบของหลวงพ่อทำให้อาตมาถึงกับอึ้ง บอกตรง ๆว่า ตอนนั้นเหมือนมีก้อนอะไรมาจุกอยู่ที่อก มันตื้นตันใจว่าการที่เราอุทิศชีวิตมาบวช มาอยู่กับหลวงพ่อนี่มันประเสริฐที่สุดแล้ว
อีกครั้งหนึ่ง หลวงพ่อได้โทรถามถึงความคืบหน้าของงานที่อเมริกา ก็ได้กราบเรียนท่านว่า
“ หลวงพ่อครับ ความจริงแล้ว งานที่นี่ยังสามารถขยายได้อีกครับ ”
“ แล้วมันติดขัดอะไรหล่ะ ” หลวงพ่อท่านถามด้วยความสนใจ
“ ติดตรงที่หาเจ้าอาวาสไม่ได้ครับ ทั้งที่หลายองค์ก็อยู่มานาน แต่พอจะให้เป็นผู้นำก็ปฏิเสธ จึงทำให้ขยายศูนย์ไม่ได้ครับ ”
ตอบเสร็จก็นึกในใจว่าหลวงพ่อท่านคงจะไม่พอใจแน่เลย ที่ไหนได้ ท่านกลับพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ สบาย ๆ
“ ลูกเอ้ย หลวงพ่อไม่โทษเขาหรอก หลวงพ่อเข้าใจมัน มันฟ้องว่า ที่บ้านไม่ได้ฝึกให้เขารับผิดชอบ หลวงพ่อเองตั้งแต่ยังเด็ก ถูกฝึกให้รับผิดชอบมาโดยตลอด เพราะฉะนั้น เมื่อเรียนหนังสือ มีกิจกรรมอะไร หลวงพ่อกระโดดเข้าไปทำทุกอย่าง ไม่ต้องรอให้ใครสั่ง จึงเป็นที่ไว้วางใจของครูบาอาจารย์ ”
นอกจากนี้หลวงพ่อยังให้หลักในการดูแลประคับประคองหมู่คณะไว้ด้วยว่า
“ ในฐานะของเจ้าอาวาส สิ่งที่เอ็งจะต้องตระหนักคือ ให้มองลูกวัด มองเจ้าหน้าที่ ว่าเขาเป็นน้อง เป็นลูกของเอ็ง มีอะไรก็แก้ไขมันไป หากเอ็งคิดได้อย่างนี้ เอ็งจะไม่เบื่อในการฝึกคน เพราะมันคือน้อง คือลูกของเรา จะไปฆ่ามันทิ้งก็ไม่ได้ ก็ต้องทนฝึกกันไป ”
สิ่งหนึ่งที่หลวงพ่อย้ำนักย้ำหนาคือ อย่าได้เอาเจ้าหน้าที่มาเปรียบเทียบกันว่า คนนั้นเป็นอย่างนั้น คนนี้เป็นอย่างนี้ เพราะแต่ละคนก็มีข้อดี ข้อด้อยต่างกันออกไป ให้รู้จักเอาข้อดีของแต่ละคนออกมาใช้ แล้วจะเกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมกับทิ้งประโยคเด็ดว่า
“ อย่าคิดเอาควายมาวิ่งแข่งกับม้า ”
ขอขอบคุณภาพจากgoogle.com
อาสภกันโต ภิกขุ
๑๑ ก.ย. ๕๙
หลวงพ่อสอนอะไร(ตอนที่ ๕๐) มองลูกด้วยความเข้าใจ
Reviewed by asabha072
on
2:58 AM
Rating:
💐🙏🙏🙏
ReplyDeleteที่แท้พระอาจารย์ไม่ชอบเที่ยว ถึงมิน่าไม่เคยเจอ.. หุหุ
ReplyDeleteสาธุครับ
ReplyDeleteคนเรามีดีไม่เท่ากัน
ReplyDeleteเราอยู่สร้างบารมีกับหมู่คณะมาจนถึงปัจจุบันนี้
ReplyDeleteก็เพราะได้หลวงพ่อทั้ง2ท่านคอยแนะนำสั่งสอน
ในการอยู่ร่วมกันกับหมู่คณะ ในการสร้างบุญ
สร้างบารมี
สาธุค่ะ
ReplyDeleteแบบอย่างที่ดีมีค่ากว่าคำสอน
ReplyDeleteครูบาอาจารย์แต่ละท่าน ล้วนไม่ธรรมดา
สาธุครับ
ReplyDeleteขอให้ลูกเป็นคนว่ายสอนง่าย ไม่ให้หลวงพ่อและครูบาอาจารย์ลำบากในการอบรมสั่งสอนไปทุกภพทุกชาติเจ้าค่ะ
ReplyDeleteกราบสาธุๆๆ มนุษย์ต่างกันเสมอ กราเข้าถึงธรรมเสมอกัน
ReplyDeleteอย่าคิดเอาควายมาวิ่งแข่งกับม้า เป็นคำสอนที่ถูกใจจริงๆ
ReplyDeleteกราบ กราบ กราบ สาธุ สาธุ สาธุ นี่แหละครูของเรา
ReplyDeleteกราบ กราบ กราบ สาธุ สาธุ สาธุ นี่แหละครูของเรา
ReplyDeleteเรารักหลวงพ่อ เพราะท่านรักเรา ปรารถนาดีกับเราและชาวโลกอย่างแท้จริง และทำให้เราเข้าใจแล้วว่าเกิดมาเพื่อสร้างบารมี กรรมชั่วแม้เพียงนิดอย่าคิดทำ
ReplyDeleteสาธุค่ะ
ReplyDeleteคำสอนของท่านอ่านแล้วต้องกลับมาถามตัวเองว่าเราฝึกตัวเราได้แค่ไหน
ReplyDeleteพวกเราโชคดีมีหลวงพ่อคอยสั่งสอน
ReplyDeleteSadhu
ReplyDeleteสาธุๆ
ReplyDeleteสาธุเจ้าค่ะ
ReplyDeleteอ่านแล้วซาบซึ้งใจกับความรักและความเมตตาอันมากมายของพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่มีต่อลูกๆ ทำให้ต้องหันกลับมาทบทวนตัวเองว่าดีพอกับความปรารถนาดีที่ท่านมีต่อพวกเราแล้วหรือยัง!
ReplyDeleteความสามารถของคนเรานั้นไม่เท่ากัน แต่เราสามารถสั่งสมบุญให้มากๆเท่าทันคนอื่นได้
ReplyDeleteความสามารถของคนเรานั้นไม่เท่ากัน แต่เราสามารถสั่งสมบุญให้มากๆเท่าทันคนอื่นได้
ReplyDeleteคนเรามีความดีไม่เท่ากันค่ะ
ReplyDeleteกราบอนุโมทนาบุญเจ้าคะ
ReplyDeleteฝึกให้เป็นคนมีความรับผิดชอบ
ReplyDeleteอนุโมทนาบุญสาธุสาธุ
ReplyDeleteกราบนมัสการค่ะ ต้องฟังคำครู จึงจะลึกซึ้งในสิ่งที่ เราตั้งเป้าหมาย กราบขอบพระคุณค่ะ
ReplyDeleteสาธุ
ReplyDeleteสาธุ
ReplyDeleteสาธุค่ะ หลวงพ่อมีคุณธรรมสูงมาก ท่านรักและปรารถนาดีกับลูกทุกๆคนค่ะ
ReplyDeleteทำไมลูก ๆ ในองค์กรจึงรักและเคารพหลวงพ่อทั้งสองมาก ก็เพราะท่านเข้าใจและรักพวกเรามาก ท่านไม่ได้ห่วงเราเพียงแค่ชาตินี้เท่านั้น แต่ท่านห่วงไปถึงการสร้างบารมีในภพชาติต่อ ๆ ไป จึงได้เคี่ยวเข็นให้สร้างบุญให้เต็มที่
ReplyDeleteหลวงพ่อฝึกฝนอบรมตนเองมาดีมาก..จนสามรถเข้าใจลูกพระและคนอื่นๆได้ดีมากๆ...กราบอนุโมทนาสาธุ..หลวงพ่อครับ..
ReplyDeleteสาธุ
ReplyDeleteหลวงพ่อฝึกฝนอบรมตนเองมาดีมาก..จนสามรถเข้าใจลูกพระและคนอื่นๆได้ดีมากๆ...กราบอนุโมทนาสาธุ..หลวงพ่อครับ..
ReplyDeleteสาธุ
ReplyDeleteสาธุๆ
ReplyDeleteครูบาอาจารย์ของเราสอนแต่สิ่งที่ดี สอนให้เราเป็นคนดี มีศีลธรรม ขอเชิดชูคุณธรรมของท่านสุดหัวใจครับ
ReplyDeleteอือหือโดนใจ
ReplyDeleteสาธุ
ReplyDeleteสาธุๆๆ กราบอนุโมทนาบุญครับ
ReplyDeleteเห็นเป็นรูปธรรม อย่างแจ่มแจ้งชัดเจนครับ
ชอบตรงที่ เขาเป็นลูกเป็นน้องต้องทนฝึกกันไป
ReplyDeleteสาธุ
ReplyDeleteสาธุ แม่นแล้ว
ReplyDelete“ เอ็งคิดว่า คนที่มันทิ้งบ้านทิ้งช่อง ไม่คิดจะมีผัว มีเมีย ในโลกนี้มันหาง่ายหรือวะ แค่มันคิดอย่างนี้ หลวงพ่อก็ให้คะแนนมันเต็มแล้ว เหลือแต่ว่าจะฝึกมันอย่างไร ตอนนี้ก็เป็นหน้าที่ของหลวงพ่อแล้วหล่ะ ”
ReplyDeleteกราบขอบพระคุณธรรมะอันทรงคุณค่าคะประโยคนี้โดนใจคะชอบมากเป็นกำลังใจให้คนที่ไม่คิดแต่งงานที่คนทางโลกมองว่าไม่ประสบความสำเร็จแต่ทางธรรมตรงกันข้าม จะพยายามฝึกตนเองต่อไปให้ดียิ่งๆขึ้น สาธุๆๆกราบอนุโมทนาค่ะ
สุดยอด อัจฉริยะ หลักแหลม คมที่สุด เยี่ยมที่สุด ยกให้หลวงพ่อเลยคะ ดีใจที่เลือกนับถือครูอาจารย์ถูก
ReplyDeleteสาธุสาธุสาธุเจ้าค่ะ
ReplyDelete“...แต่ละคนก็มีข้อดี ข้อด้อยต่างกันออกไป ให้รู้จักเอาข้อดีของแต่ละคนออกมาใช้ แล้วจะเกิดประโยชน์สูงสุด”
ReplyDelete“ อย่าคิดเอาควายมาวิ่งแข่งกับม้า ” พระเดชพระคุณหลวงพ่อ...เป็นต้นแบบของครูที่ยิ่งใหญ่...สาธุ
สาธุค่ะ
ReplyDeleteสาธุครับ
ReplyDeleteสาธุๆๆ
ReplyDeleteสาธุๆๆค่ะ
ReplyDeleteถ้าผมอยู่บ้านข้างๆก็คงจะไม่ชอบหน้าเหมือนกัน(หน้าไม่ทันสมัย)แต่อย่างอื่นชอบหมดเลย นิสัยก็ดี เขียนหนังสือก็เก่ง ชอบบบ
ReplyDeleteถ้าผมอยู่บ้านข้างๆก็คงจะไม่ชอบหน้าเหมือนกัน(หน้าไม่ทันสมัย)แต่อย่างอื่นชอบหมดเลย นิสัยก็ดี เขียนหนังสือก็เก่ง ชอบบบ
ReplyDeleteสาธุเจ้าค่ะ
ReplyDeleteสาธุเจ้าค่ะ
ReplyDeleteประทับใจครับ จะไม่เอาม้า-ควายมาวิ่งแข่งกัน ต่างคนต่างวิ่ง สู้สุดชีวิตเป็นอันใช้ได้
ReplyDeleteต่างคน ต่างวิ่ง แต่ก็ถึงจุดหมายเหมือนกัน
ReplyDeleteกราบอนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธุ
ReplyDeleteหลวงพ่อช่างเข้าใจธรรมชาติและจิตใจของคนไปหมดทุกอย่าง มิน่าเล่า พระอาจารย์ทุกรูปของวัดพระธรรมกายถึงถูกฝึกให้เก่งกันคนละอย่างตามความถนัด แต่พอรวมทีมทำงาน ภาพรวมที่ออกมาไม่ต้องให้พูดเลย ได้รับคำชมทุกงาน กราบสาธุๆๆหลวงพ่อเจ้าค่าาา
ReplyDeleteกราบอนุโมทนาบุญสาธุค่ะ
ReplyDeleteกราบอนุโมทนาบุญสาธุค่ะ
ReplyDeleteสาธุ สาธุ สาธุครับ
ReplyDeleteกราบขอบพระคุณพระอาจารย์ที่นำคำสอนดีๆ มาให้ได้อ่านกันค่ะ
ReplyDeleteสุดยอดเจ้าค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ
ReplyDeleteสุดยอดเจ้าค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ
ReplyDeleteชอบอ่านหนังสือกำลังภายใน แล้วมีกังฟูมั้ยคะ อิอิอิ
ReplyDelete