หลวงพ่อสอนอะไร(ตอนที่ ๕๓) นายของเงิน
หลวงพ่อสอนอะไร(ตอนที่ ๕๓)
นายของเงิน
เมื่อเรายังอยู่ในสังคมที่จำเป็นจะต้องมีการแลกเปลี่ยนสิ่งของด้วยเงิน จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า เงิน เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งในการดำรงชีวิต เพราะมนุษย์จำเป็นต้องกินต้องอยู่
แม้ในทางธรรม เงินก็เป็นสิ่งที่จำเป็นในการที่จะทำให้การสั่งสมบุญเป็นไปได้โดยสะดวก แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือ วิธีใช้เงินของคนทางโลกกับคนทางธรรม หากไม่เข้าใจในประเด็นนี้ก็จะเกิดความสับสนอย่างที่เป็นปัญหาอยู่ทุกวันนี้ เพราะชาวโลกมองการใช้เงินหรือปัจจัยของพระ โดยเอาความรู้สึกหรือเอาวิธีการของตนมาคิด
กล่าวคือ การใช้เงินของคนทางโลกนั้น เป็นไปเพื่อการเติมเต็มในเรื่องของปัจจัย ๔ หรือภาษาพระใช้คำว่า เพื่อบำรุงกาม (คำว่า กาม ในที่นี้หมายถึง วัตถุอันน่าใคร่ เช่น ซื้อบ้าน ซื้อรถ ซื้อทีวี ของใช้อะไรต่าง ๆ ตามที่ต้องการ)
แต่การใช้เงินของพระนั้น ต้องเป็นไปเพื่อการสร้างบารมี แม้อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จัดหามาก็ไม่ใช่ของส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นยานพาหนะ อุปกรณ์ไฟฟ้า โทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ
หลวงพ่อทัตตชีโว ท่านเคยให้โอวาทพระลูกชายไว้ว่า
“ อุปกรณ์ทุกอย่างที่มีอยู่ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม ได้มาด้วยอานิสงส์จากการเข้ามาบวช จึงเป็นสมบัติของพระศาสนา ดังนั้นใครก็มีสิทธิมาใช้ได้ หากใครคิดว่าเป็นของตนเอง หวงไว้ ไม่ให้ใครใช้ ใครแตะต้องไม่ได้ ก็ช่วยเอาของนั้นออกไปจากวัด แล้วตัวก็ตามไปด้วย ”
และสิ่งนี้หลวงพ่อทั้งสองก็ทำเป็นตัวอย่างมาตลอด ซึ่งอาตมาได้ยินกับหูเมื่อตอนเป็นพระพี่เลี้ยงสามเณร ทั้งหลวงพ่อธัมมชโยและหลวงพ่อทัตตชีโว ท่านย้ำเลยว่า
" หากสามเณรเจ็บป่วย ฉุกเฉินหารถไม่ได้ ให้รีบมาเอารถหลวงพ่อพาสามเณรไปโรงพยาบาล "
อาตมายังจำได้ดีว่า วันแรกที่เข้าไปฝึกงานที่อาศรมบัณฑิต เมื่อรายงานชื่อเสียงเรียงนามเสร็จ ประโยคแรกที่หลวงพ่อทัตตชีโวถามคือ
“ เอ็งมีเงินฝากส่วนตัวในธนาคารเท่าไรวะ ”
ตอนนั้นอาตมางงมาก เพราะจะมาฝึกงานอยู่กับท่าน แต่ท่านมาถามเรื่องบัญชีเงินฝากทำไม
“ ไม่มีครับหลวงพ่อ ปิดบัญชีทำบุญกฐินยายไปเรียบร้อยหมดแล้วครับ พอดีวันก่อนหลวงพี่ตักกะ ท่านมาเทศน์เรื่องกฐินยาย ทำให้นึกได้ว่ายังมีเงินในธนาคารอยู่ เลยไปปิดบัญชีมาทำบุญหมดแล้วครับ ”
“ ดีมาก เป็นพระมีเงินเป็นส่วนตัวก็อายโยม ”
ตรงนี้ขออธิบายสักนิด คำว่า เงินส่วนตัว ที่หลวงพ่อกล่าวถึง หมายถึง เงินที่เอาไว้ใช้จ่ายสำหรับตนเองโดยเฉพาะ ไม่ได้เอามาใช้ในงานพระพุทธศาสนา
หลวงพ่อทั้งสองท่านจะมีวิธีบริหารปัจจัยที่ญาติโยมถวายมา แม้จะระบุถวายท่านเป็นการส่วนตัวก็ตาม แต่ทุกบาททุกสตางค์ท่านจะเอาไว้ใช้เพื่อการทำงานทั้งนั้น ที่อาตมากล้ายืนยันก็เพราะว่า ในช่วงที่ไปฝึกงานนั้นจะช่วยกันดูแลปัจจัยส่วนนี้
เวลาที่โยมมาถวายปัจจัย อาตมาก็จะเก็บซองโดยหลวงพ่อไม่เคยทราบเลยว่า โยมถวายมามากน้อยแค่ไหน ทีมงานก็จะไปทำบัญชีไว้ เมื่อหลวงพ่อจะใช้ทำงานอะไร ท่านก็จะมาถามพวกเรา
“ เฮ้ย มีตังไหม หลวงพ่อจะเอาไปทำบุญ ”
อาตมาก็จะถามว่าท่านต้องการเท่าไร แล้วก็ไปจัดมาให้ท่าน นั่นคือ สิ่งที่หลวงพ่อได้ทำไว้ให้เป็นตัวอย่าง
เวลาที่โยมมาถวายปัจจัย อาตมาก็จะเก็บซองโดยหลวงพ่อไม่เคยทราบเลยว่า โยมถวายมามากน้อยแค่ไหน ทีมงานก็จะไปทำบัญชีไว้ เมื่อหลวงพ่อจะใช้ทำงานอะไร ท่านก็จะมาถามพวกเรา
“ เฮ้ย มีตังไหม หลวงพ่อจะเอาไปทำบุญ ”
อาตมาก็จะถามว่าท่านต้องการเท่าไร แล้วก็ไปจัดมาให้ท่าน นั่นคือ สิ่งที่หลวงพ่อได้ทำไว้ให้เป็นตัวอย่าง
สิ่งหนึ่งที่อาตมาประทับใจหลวงพ่อทัตตชีโวคือ ความรักบุญ ขอให้รู้ว่าที่วัดไหนมีการก่อสร้างหรือกำลังต้องการปัจจัยในการขยายงาน ท่านจะรีบทำทันที จนหลวงพี่สินทบที่เป็นพระเลขาของหลวงพ่อ ต้องคอยกำชับอาตมาว่า
“ เวลาตามหลวงพ่อไปไหน อย่าเอาปัจจัยใส่ย่ามไปเยอะ เพราะหลวงพ่อเราท่านใจใหญ่ ใครขอหรือเดือดร้อนมาท่านให้หมด ”
ไม่ใช่เฉพาะที่เมืองไทยเท่านั้น แม้แต่ที่ต่างประเทศ เวลาท่านมีโอกาสไปร่วมงานที่วัดไหนก็ตามที่เขากำลังก่อร่างสร้างตัว ท่านจะหันมาถามเลย
“ มีตังเท่าไร ”
“ ติดมาห้าร้อยเหรียญครับ เพราะคิดว่าไม่น่าจะใช้จ่ายอะไรครับ ”
“ ไปหามาให้ได้พันเหรียญ หลวงพ่อจะถวายเจ้าอาวาสเขา ”
“ ห้าร้อยก็พอมังครับหลวงพ่อ เยอะแล้วครับ ”
“ ไม่พอหรอก เจ้าอาวาสเขาอุตส่าห์มาซื้อโบสถ์เก่า มาทำวัด เขาต้องมีค่าใช่จ่ายในการปรับปรุงอีกเยอะ นี่หากมีมากกว่าพันก็เอามา ”
คำสอนของหลวงพ่อที่อาตมาจำได้ชัดเจนคือ
“ ชาวโลกที่เขามีปัญหาความไม่รู้จักพอ เพราะเขาปล่อยให้เงินมันเป็นนาย แต่วิถีชีวิตของพระ เมื่อหลีกเลี่ยงการใช้เงินไม่ได้ เราก็ต้องใช้เงินแบบเป็นนายของมัน คือ เอามันมาสร้างบุญสร้างบารมี ”
เพราะได้ต้นแบบเช่นหลวงพ่อทั้งสอง อาตมาจึงเดินตามสิ่งที่ครูบาอาจารย์ทำ จึงกล้ากล่าวได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า ตลอดชีวิตของการบวชไม่เคยคิดจะสะสมเงินทองเพราะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำอย่างนั้น
แม้อาตมาซึ่งเป็นพระลูกวัดยังคิดอย่างนี้ได้ แล้วหลวงพ่อทั้งสองที่มีเป้าหมายของการบวชชัดเจนยิ่งกว่าอาตมาไม่รู้กี่ร้อยเท่าพันเท่า ท่านจะคิดสะสมเพื่ออะไร หากคนที่คอยหาเรื่องท่านเรื่องเงินทอง เข้าใจตรงจุดนี้ เรื่องรับของโจรหรือฟอกเงินจะไม่มีวันเกิดขึ้นเลย
หยุดเอาใจของผู้บริโภคกาม มาวัดใจของพระผู้แสวงหาทางหลุดพ้นเถิด
ขอขอบคุณภาพจากgoogle.com
อาสภกันโต ภิกขุ
๑๕ ก.ย. ๕๙
หลวงพ่อสอนอะไร(ตอนที่ ๕๓) นายของเงิน
Reviewed by asabha072
on
2:26 AM
Rating:
💐🙏🙏🙏
ReplyDeleteกราบ กราบ กราบ
ReplyDeleteไม่ฝงไม่ฝากตังที่ธนาคารแล้วครับ.. เอามาฝากพระอาจาย์ดีกว่า ได้บุญด้วย
ReplyDeleteยิ่งทําดวงทานยิ่งโตหาทรัพย์ได้ง่าย เกิดชาติใหม่ก็มีสมบัติ
ReplyDelete"เวลาที่โยมมาถวายปัจจัย อาตมาก็จะเก็บซองโดยหลวงพ่อไม่เคยทราบเลยว่า โยมถวายมามากน้อยแค่ไหน" ทั้งพระอาจารย์และเด็กวัดอย่างดิฉัน ก็เห็นหลวงพ่อทั้ง 2 รูป ทำแบบนี้มาตลอดค่ะ
ReplyDeleteสาธุคับ
ReplyDeleteWe worship the ground both of our beloved Luang Phors walk on literally!
ReplyDeleteสาธุ กราบอนุโมทนาบุญกับพระอาจารย์เจ้าค่ะ #การสั่งสมบุญนำสุขมาให้
ReplyDeleteสาธุสาธุสาธุค่ะ🙏
ReplyDeleteอนุโมทนาบุญสาธุสาธุ
ReplyDeleteกราบ กราบ กราบ สาธุ สาธุ สาธุ เงินมีไว้ต่อบุญสร้างบารมีจริงๆนะ
ReplyDeleteกราบ กราบ กราบ สาธุ สาธุ สาธุ เงินมีไว้ต่อบุญสร้างบารมีจริงๆนะ
ReplyDeleteอนุโมทนาบทความดีๆครับ (โชคดีที่เราได้พบครูดี คือ พระเดชพระคุณหลวงพ่อทั้งสอง )
ReplyDeleteสาธุค่ะ
ReplyDeleteสุดยอดคำสอนครับ
ReplyDeleteสาธุครับ
ReplyDeleteกราบนอบน้อมบูชาหลวงพ่อทั้งสองด้วยความเคารพรักยิ่งค่ะ
ReplyDeleteกราบนอบน้อมบูชาหลวงพ่อทั้งสองด้วยความเคารพรักยิ่งค่ะ
ReplyDeleteขอน้อมกราบถวายปัจจัยเต็มที่เต็มกำลังเช่นกันเจ้าค่ะ
ReplyDeleteปลื้ม..มากหลวงพ่อสอนดีเสมอแบะเป็นต้นแบบของผู้ให้ ให้เป็นนายของการใช้เงิน ในการสร้างบารมี สาธุ สาธุ สาธุ
ReplyDeleteกราบอนุโมทนาบุญค่ะ... สาธุค่ะ
ReplyDeleteกราบอนุโมทนาบุญทุกๆบุญเจ้าค่ะ
ReplyDeleteกราบอนุโมทนาบุญทุกๆบุญเจ้าค่ะ
ReplyDeleteธรรมสอนสั่งหยั้งใจให้เป็นสุข
ReplyDeleteธรรมช่วยทุกข์หมดไปใจสุขศานติ์
ธรรมรักษาจิตใจให้เบิกบาน
ธรรมบันดาลให้สุขตลอดไป
ชัยชนะพระธรรมนำดวงจิต
ชัยชนะพิชิตจิตผ่องใส
ชัยชนะหมู่มารทุกชาติไป
ชัยชนะให้พระชนะมาร...
กราบอนุโมทนาบุญทุกๆบุญเจ้าค่ะ
ReplyDeleteกราบอนุโมทนาบุญทุกๆบุญเจ้าค่ะ
ReplyDeleteกราบอนุโมทนาบุญทุกๆ บุญค่ะ
ReplyDeleteกราบอนุโมทนาบุญทุกๆ บุญค่ะ
ReplyDeleteกราบสาธุ
ReplyDeleteหลวงพ่อเป็นต้นบุญในการสร้างบารมี
ReplyDeleteซาบซึ่้งมาก กราบอนุโมทนาบุญด้วยเจ้าค่ะ
ReplyDeleteสาธุๆๆ ขอกราบอนุโมทนาบุญครับ
ReplyDeleteแจ่มแจ้งชัดเจน !!!
คำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อใช้ได้ทุกยุคทุกสมัยจริงๆ ค่ะ
ReplyDeleteสาธุ
ReplyDeleteขอกราบอนุโมทนาบุญด้วยครับ
ReplyDeleteเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ใจ ของหลวงพ่อ สาธุ สาธุ สาธุ เจ้าค่ะ
ReplyDeleteกราบอนุโมทนาบุญด้วยเจ้าค่ะคำสอนดีๆเจ้าค่ะ
ReplyDeleteอ่านการถ่ายทอดงานเขียนของพระอาจารย์ที่มีต่อครูบาอาจารย์ ทำให้เปิดความรู้สึกนึกคิดของเราให้สมบูรณ์ขึ้น กราบขอบพระคุณพระอาจารย์ด้วยความเคารพค่ะ
ReplyDeleteสาธุค่ะ
ReplyDeleteกราบขอบพระคุณและอนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ
ReplyDeleteสาธุครับ ต้องหมั่นทำบุญให้สม่ำเสมอเข้าไว้ จะได้ไม่ขัดสน
ReplyDeleteกราบอนุโมทนาบุญพระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตชีโวครับ
ReplyDeleteกราบอนุโมทนาบุญกับหลวงพ่อทั้งสองและพระลูกชายทุกรูปเจ้าค่ะ สาธุ
ReplyDeleteหยุดเอาใจของผู้บริโภคกาม มาวัดใจพระผู้แสวงหาทางหลุดพ้นเถิด..
ReplyDeleteกราบอนุโมทนาบุญ..กับหลวงพ่อทัตตะชีโว..สาธุครับ
หยุดเอาใจของผู้บริโภคกาม มาวัดใจพระผู้แสวงหาทางหลุดพ้นเถิด..
ReplyDeleteกราบอนุโมทนาบุญ..กับหลวงพ่อทัตตะชีโว..สาธุครับ
เราปลื้มใจมีครูที่เปี่ยมด้วยคุณธรรม
ReplyDeleteเราปลื้มใจมีครูที่เปี่ยมด้วยคุณธรรม
ReplyDeleteกราบอนุโมทนาบุญ สาธุ สาธุ สาธุครับ
ReplyDeleteสาธุครับ
ReplyDeleteสาธุๆๆค่ะ
ReplyDeleteสาธุ
ReplyDeleteเรื่องนี้สำคัญมาก ในความเป็นพระ โชคดีที่มีครูดีครับ
ReplyDeleteสาธุค่ะ
ReplyDeleteสาธุค่ะ
ReplyDeleteสาธุๆๆค่ะ
ReplyDeleteหลวงพ่อทั้งสอง เป็นต้นแบบต้นบุญที่ทรงคุณธรรมอันประเสิฐยิ่งของลูกๆทุกคน กราบสาธุๆๆเจ้าค่ะ
ReplyDeleteอ่านแล้วได้ข้อคิดมากเลยครับ คิดว่ายังไงก็ต้องมีครับ มีไว้สร้างบุญสร้างบารมีครับ
ReplyDeleteสาธุเจ้าค่ะ
ReplyDeleteเราโชคดี มีครูบาอาจารย์คอยสั่งสอน
ReplyDeleteสาธุครับ
ReplyDeleteสาธุค่ะ เราโชคดีที่ได้พบสุดยอดครูบาอาจารย์
ReplyDeleteกราบอนุโมทนาบุญสาธุค่ะปลื้มใจที่สุดค่ะสาธุสาธุ
ReplyDeleteกราบอนุโมทนาบุญสาธุค่ะปลื้มใจที่สุดค่ะสาธุสาธุ
ReplyDeleteสาธุ เจ้าค่ะ มั่นใจและเชื่อมั่นในการสร้างบารมีของพระเดชพระคุณหลวงพ่อทั้งสองค่ะ 😀
ReplyDeleteสาธุ เจ้าค่ะ มั่นใจและเชื่อมั่นในการสร้างบารมีของพระเดชพระคุณหลวงพ่อทั้งสองค่ะ 😀
ReplyDelete