หลวงพ่อสอนอะไร(ตอนที่ ๓๒) การตรวจวัด

หลวงพ่อสอนอะไร(ตอนที่ ๓๒)

การตรวจวัด

     ในการทำงานทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็นองค์กรระดับโลก จนกระทั่งถึงหน่วยที่เล็กที่สุดในสังคมคือ สถาบันครอบครัว ก็ตาม มักจะประสบปัญหาเดียวกันคือ ความสูญเปล่าหรือความเสียหายของทรัพยากร ซึ่งมักจะมีสาเหตุมาจากความหละหลวมในการตรวจสอบ หรือการเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด

     หลวงพ่อทัตตชีโว เคยเล่าให้ลูก ๆ ในองค์กรฟังว่า สมัยที่หลวงพ่อธัมมชโยท่านแข็งแรงนั้น ท่านจะเดินตรวจวัดเป็นประจำ แต่ต่อมาด้วยสุขภาพไม่อำนวย หน้าที่ของการตรวจวัดจึงตกเป็นของหลวงพ่อทัตตชีโวไปโดยปริยาย รวมทั้งพระผู้ใหญ่หลายรูปในวัด

อาตมาเคยกราบเรียนถามหลวงพ่อว่า

“ ทำไมหลวงพ่อไม่มอบหมายหน้าที่การตรวจวัดให้เป็นของพระรูปใดรูปหนึ่งครับ แทนที่หลวงพ่อจะต้องออกเดินตรวจวัดแบบนี้ ”

     ที่อาตมาต้องเรียนถามท่าน เนื่องจากโดยปกติหากหลวงพ่อไม่มีกิจนิมนต์ที่ไหน ตกเย็น ๆ ราว ๑๖.๓๐ น.หรือ ๑๗.๐๐ น. หลวงพ่อก็จะออกเดินตรวจวัดไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะมืดค่ำหรือจนมองไม่เห็นจึงจะกลับไปที่อาศรมบัณฑิต

     หลวงพ่อท่านเมตตาให้คำอธิบายว่า “ ถึงแม้จะตั้งใครหรือไม่ก็ตาม แต่ยังไงหลวงพ่อก็ต้องตรวจวัดอยู่ดี ”

“ ทำไมหรือครับ หลวงพ่อไม่วางใจหรือครับ ” อาตมาถามด้วยความอยากรู้

“ ไม่ใช่ไม่วางใจ แต่หลวงพ่อทำตามที่ยายสั่งไว้ ” แล้วหลวงพ่อก็อธิบายต่อไปว่า “ ยายสั่งไว้เลยว่า หลวงพ่อทัตตะนะ จำไว้ เชื่อลูกตาบอดหนึ่งข้าง เชื่อลูกจ้างตาบอดทั้งคู่ เพราะเหตุนี้ ยังไงหลวงพ่อก็ต้องตามดูงานที่มอบหมายให้ใครไปทำอยู่ดี ท่านเองก็จำไว้ ต่อไปภายหน้า แม้มอบหมายให้ใครทำก็ต้องตามดู ไม่ใช่การไปจับผิด แต่ไปช่วยดูว่ามีอะไรที่หละหลวม ที่จะเกิดความเสียหายหรือไม่ จะได้แนะนำกันได้ ”

     แล้ววิธีการตรวจวัดของหลวงพ่อทัตตชีโวก็ไม่เหมือนคนอื่นเขาซะด้วย ยังไงหรือ ก็คนทั่วไปเขาจะตรวจโน่นนี่ก็ต้องดูวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส เดินทางสะดวก แต่หลวงพ่อท่านไม่อย่างนั้น วันไหนท้องฟ้าโปร่ง ท่านนั่งเขียนหนังสือ ดูตำรา แต่พอเริ่มท้องฟ้ามืดครึ้ม ไม่ต้องรอให้ถึงตอนเย็น ท่านจะเรียกแล้ว “ ไปตรวจวัดกันวุ้ย ”

     ดังนั้นภาพที่ลูก ๆ ในองค์กรจะเห็นบ่อย ๆ คือ หลวงพ่อเดินตากฝน มีพระติดตามหนึ่งหรือสองรูป เดินดูตรงโน้นตรงนี้

     อาตมาเคยกราบเรียนถามหลวงพ่อว่า “ ทำไมหลวงพ่อต้องตรวจวัดตอนฝนตกด้วยครับ แถมร่มก็ไม่กาง ”
“ ตรวจวัดตอนฝนตกนี่แหละ มันจะเห็นอะไรต่อมิอะไร ใครทิ้งข้าวของไว้ ก็จะเห็น ชัด จะรู้ว่าอะไรจะเสียหายบ้าง ”

 

     นอกจากจะตรวจวัดในวันที่ฝนตกแล้ว ในวันทั่ว ๆ ไป พระที่ติดตามต้องพกของ ๒ สิ่ง คือ สมุดปากกา และถุงใส่เพชรพลอย

     สำหรับสมุดปากกานั้น เอาไว้บันทึกว่า หลวงพ่อพบเจออะไรที่ต้องแก้ไข เมื่อบันทึกแล้ว ก็จะเอาไปกราบเรียนให้ผู้รับผิดชอบตรงจุดนั้น ๆ ได้แก้ไข แล้วอีกไม่กี่วันหลวงพ่อก็จะไปตามดูว่า ได้มีการแก้ไขแล้วหรือยัง

     ส่วนถุงใส่เพชรพลอยนั้น มีไว้สำหรับเวลาที่หลวงพ่อท่านเห็นมีขยะหรือถุงพลาสติกถูกทิ้ง ท่านจะเก็บ พระติดตามก็ต้องรีบเอาถุงเพชรพลอยไปรับ หรือถ้าเห็นก่อนหลวงพ่อ ก็ต้องรีบเก็บก่อนเพื่อไม่ให้หลวงพ่อต้องก้ม ๆ เงย ๆ มากนัก

     เพราะความทุ่มเทเอาใจใส่ของหลวงพ่อทัตตชีโวอย่างนี้ จึงทำให้หลวงพ่อธัมมชโยท่านวางใจ มอบหมายงานบริหารให้หลวงพ่อทัตตชีโวดูแล ท่านจึงได้เคี่ยวเข็ญให้ลูก ๆ ได้ให้ความสำคัญกับคำสอนของคุณยาย

“ เชื่อลูกตาบอดหนึ่งข้าง เชื่อลูกจ้างตาบอดทั้งคู่ ”

ขอขอบคุณภาพจากgoogle.com

อาสภกันโต ภิกขุ

๒๐ ส.ค. ๕๙