จะปรองดองได้อย่างไร...เมื่อคนไทยไม่รักกัน

จะปรองดองได้อย่างไร...เมื่อคนไทยไม่รักกัน


              เมื่อตอนเรียนมัธยม มีกิจกรรมหนึ่งที่ผมรอคอยและชอบมาก คือ กีฬาสี เพราะ นอกจากจะมีการแข่งกีฬาแล้ว ยังมีการแต่งตัวสวย ของเชียร์ลีดเดอร์ของแต่ละสี ที่โรงเรียนของผมมีวิธีแบ่งสีต่างจากโรงเรียนอื่น คือ โรงเรียนทั่วไปจะแบ่งว่า สีเหลือง มีห้องนั้น สีแดงมีห้องนี้ สีฟ้าห้องโน้น ก็ว่ากันไป แต่ที่โรงเรียนของผม เนื่องจากมีนโยบายว่า อยากให้นักเรียนในแต่ละห้องได้รู้จัก คุ้นเคยกัน จึงมีการแบ่งสีโดย แบ่งตามเลขที่ เช่น ห้อง / เลขที่ - ๑๐ สีแดง เลขที่ ๑๑ - ๒๐ สีฟ้า เป็นต้น ทำให้เกิดการคละกันอย่างทั่วถึง การทำอย่างนี้ทำให้เรารู้จักกันหมด ไม่ว่าจะเป็นสายวิทย์ สายศิลป์ สายพละ เวลาที่แข่งขันกัน เราก็ทุ่มเทกันเต็มที่เพื่อเอาชนะสีอื่น ไม่ว่าด้านกีฬาหรือการเชียร์ แต่พอแข่งเสร็จ เราก็กลับมาอยู่ร่วมห้องเดียวกัน รักกันเหมือนเดิม แถมสิ่งที่ได้เพิ่มคือ ได้รู้จักคุ้นเคยเพื่อนห้องอื่น ไปมาหาสู่กันระหว่างห้องมากขึ้น


             เมื่อบุญพาวาสนาส่ง ทำให้มีโอกาสได้ไปใช้ชีวิตที่อเมริกา ผมก็เห็นพรรคการเมืองใหญ่สองพรรคคือ เดโมแครต กับรีพับรีกัน เวลาที่ต้องแข่งขันกัน เขาก็สู้กันอย่างดุเดือด แต่พอมีผู้แพ้ ผู้ชนะเกิดขึ้น เขาก็หันหน้ามาทำงานร่วมกัน เพื่อพัฒนาประเทศชาติต่อไป


            เมื่อนึกถึงเรื่องสองเรื่องนี้แล้ว ก็อดถอนใจไม่ได้กับบ้านเรา เราเล่นกีฬาสีกันมากี่ปีแล้ว เราไม่เบื่อกันหรือครับ เราเคยถามตัวเราไหมว่า ตั้งแต่เรามีการแบ่งสีกัน มันมีอะไรที่ดีขึ้นบ้าง เราสามัคคีกันขึ้นไหม ตรงกันข้าม ผมเห็นบางครอบครัว พ่อแม่ลูก ไม่คุยกัน ไม่มองหน้ากันก็มี บางคนจากเพื่อนที่สนิท กลายเป็นเลิกคบหากัน อะไรที่อีกฝ่ายหนึ่งทำ แม้จะเป็นเรื่องที่ดี ก็จะผิดในสายตาของอีกฝ่ายเสมอ


            แม้ที่สุดเรื่องเหล่านี้ยังลุกลามเข้าไปสู่วัดวา วัดนั้นสีแดง วัดนั้นสีเหลือง พระองค์นั้นเสื้อแดง องค์นั้นเสื้อเหลือง ให้วุ่นวายกันไปหมด 
            หากเราหยุดคิดสักนิด มีสติสักหน่อย ลองพิจารณากันเถิด เวลาที่คนเข้าวัด มีวัดไหนบ้างไหมครับ ที่ตั้งโต๊ะ ถามว่า "คุณสีอะไร" ยิ่งวัดที่เขาใส่ชุดขาวกัน จะไปรู้ได้อย่างไรว่าเขาชอบแบบไหน หรือเขามี ความเชื่อความคิดเรื่องการเมืองอย่างไร ทุกวันนี้เรามองทุกเรื่องที่คนเห็นต่างจากเรา แล้วก็ผลักเขาไปอยู่ฝั่งตรงข้ามทันที 
            ผมเชื่อมั่นในเรื่องสิทธิเสรีภาพของมนุษย์ เราทุกคนมีสิทธิในการนับถือศาสนา เรามีสิทธิเสรีภาพในการทำอะไรก็ได้ ตราบที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย ศีลธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณีที่ดีงาม แต่ผมไม่เห็นด้วยเลยที่เราจะใช้สิทธิอันนี้ไปผลักผู้มีความเห็นต่าง ให้ไปอยู่คนละขั้วกับเรา 
            เหนื่อยกันหรือยังครับ กับการเล่นกีฬาสีของพวกเรา เมื่อไรคนไทยเราจะกลับมารู้รักสามัคคีกันเหมือนก่อน จะมีใครเป็นวีรบุรุษที่จะมาละลายสีบ้างไหมครับ ผมอยากเห็นความปรองดองเกิดขึ้นในบ้านเมืองเราจริง  

หวังว่าผมคงได้เห็นก่อนตายนะครับ 


ขอขอบคุณภาพจาก google.com 
อนาคาริก
06/11/16
จะปรองดองได้อย่างไร...เมื่อคนไทยไม่รักกัน จะปรองดองได้อย่างไร...เมื่อคนไทยไม่รักกัน Reviewed by asabha072 on 5:30 AM Rating: 5

1 comment:

  1. แวนโก๊ะครับ รับรองว่าระบายสีได้สวย..แต่เสียดาย ตายไปแล้ว เพราะฉะนั้น เอาโก๊ะตี๋แทนไปก่อนละกัน ตั้งเป็นนายก รับรองเจ๋ง

    ReplyDelete

Powered by Blogger.