จะชื่นชมหรือไล่ล่าดี

จะชื่นชมหรือไล่ล่าดี


             วันนี้ขณะที่กำลังเปิดดูภาพสุนัขในกูเกิล ทำให้ผมนึกถึงนิทานพื้นบ้านที่มีข้อคิดดี เป็นเรื่องของหนุ่มสาวคู่หนึ่ง แต่งงานกันมานาน แต่ก็ไม่มีลูกสักที ก็เลยหาลูกสุนัขมาเลี้ยง แล้วก็รักเหมือนลูกของตัวเอง เจ้าสุนัขก็โตวันโตคืน สูงสง่าเลยทีเดียว มันรักและซื่อสัตย์ กับเจ้าของมันมาก คอยดูแลไม่ให้มีอันตรายใด เลย


             เรื่องก็มีต่อไปอีกว่า หลังจากครองรักกันมา ปี จู่ ทั้งคู่ก็มีลูกสมใจ เลยทุ่มเท ความรักให้กับลูกน้อย จนละเลยเจ้าสุนัขตัวโปรด ทำให้เจ้าสุนัขหนุ่ม รู้สึกเหมือนถูกทิ้ง และเริ่มรู้สึกอิจฉาทารกน้อย ทำท่าเห่าหรือส่งเสียงครางบ้าง เวลาที่นายของมันเล่นกับลูกน้อย
              และแล้ววันแห่งความเศร้าสลดก็มาถึง นายของมันปล่อยให้ลูกน้อยหลับสบาย อยู่ในเปลตามลำพัง แล้วก็ไปทำธุระ แต่สักพักก็ได้ยินเสียงเจ้าสุนัขขู่ คำราม และมีเสียง ต่อสู้กัน จากในห้องของลูกชาย พอวิ่งเข้าไปดู ก็พบว่าเจ้าสุนัขตัวโปรดอยู่ในห้องโถง ปากเต็มไปด้วยเลือด ด้วยความโมโหสุดขีด เจ้านายทั้งคู่ช่วยกัน เอามีดทำครัวกระหน่ำแทงสุนัข ที่กำลังเหน็ดเหนื่อยและไม่ได้ตั้งตัวจนมันสิ้นใจตาย 
              หลังจากที่รีบเข้าไปดูในห้อง ทั้งสองก็พบว่า มีซากของงูอยู่ในห้อง และพบงูหัวขาด อยู่ใกล้เปลของทารกน้อย ทั้งคู่ตกตะลึงอุทานด้วยเสียงสั่นเครือว่า เราได้ฆ่าสุนัขที่ซื่อสัตย์ของเราเสียแล้ว


              นึกถึงเหตุการณ์ในปัจจุบัน เรื่องราวอันแสนพิลึกพิลั่นของวัดพระธรรมกาย ซึ่งเริ่มต้นจากการที่ผู้มีจิตศรัทธาได้นำเงินมาบริจาคให้วัด โดยที่วัดก็รับโดยสุจริต ท่ามกลางสายตาของคนนับแสน เมื่อรับถวายปัจจัยมาแล้ว ทางวัดก็นำปัจจัยนั้นไปใช้ในการก่อสร้างเสนาสนะ ตามเจตนารมณ์ของผู้ถวาย แต่แล้วก็มีเรื่องราวว่า ผู้มีจิตศรัทธามีปัญหากับสหกรณ์ ทั้งที่ทางวัดไม่มีหน้าที่ที่จะต้องจ่ายเงินคืนแต่ทางลูกศิษย์วัดเห็นแก่ความเดือดร้อนนั้น จึงได้รวบรวมเงินไปช่วยเยียวยา สหกรณ์ก็ขอบอกขอบใจมา เรื่องก็น่าจะจบด้วยดี
               วันร้ายคืนร้าย จู่ เจ้าอาวาส ก็ถูกประเคนข้อหารับของโจร แถมด้วยฟอกเงิน กลายเป็นเรื่องอาญาแผ่นดิน เป็นเรื่องราวใหญ่โต ทั้งที่ทางคณะศิษย์วัด คือคนกลุ่มเดียวที่ช่วยเหลือสหกรณ์ ส่วนองค์กรอื่น ที่ได้รับบริจาคไปเป็นจำนวนรวมแล้วมากกว่าหลายเท่า กลับไม่มีใครไปไล่จี้เอาเป็นเอาตาย เหมือนกับที่วัดพระธรรมกายถูกกระทำ
                ทั้งสองเรื่องมีสิ่งที่เหมือนกันคือ ผู้ที่ทำความดี เข้าไปช่วยเหลือ เข้าไปปกป้อง กลับได้รับผลในทางตรงกันข้าม คือ แทนที่จะได้รับการชื่นชม ยกย่อง ประกาศคุณความดี กลับมาไล่ล่า เอาเป็นเอาตายกันให้ได้ 
                 บทสรุปของเรื่องแรก คือ ความตายของสุนัขตัวโปรด กับความเสียใจที่เป็นตราบาป ติดอยู่ในใจของสามีภรรยาคู่นั้น
                 แต่บทสรุปเรื่องหลัง ยังคาดเดาไม่ออกว่าจะเป็นอย่างไร ตราบใดที่ธงที่ตั้งไว้ ยังไม่ถูกลดลง ก็คงมีการออกมารุมกินโต๊ะกันอีกมากมาย เพราะอีกฝ่ายหนึ่งถือทั้งอาวุธและกฎหมายอยู่ในมือ แต่ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร อีกฝ่ายก็คงจะไม่มีวันสลดใจ เพราะไม่ได้เชื่อในเรื่องบาปบุญคุณโทษหรือกฎแห่งกรรมอยู่แล้ว
                 ที่ผมทึ่งคือ ฝ่ายทางวัดนี่สิ แม้จะมีเรื่องหนักหนาสาหัส แต่เห็นทั้งพระ เจ้าหน้าที่ สาธุชน ไม่เห็นมีร่องรอยความหนักอกหนักใจ ยังคงสวดมนต์  เจริญจิตตภาวนากันไป แผ่เมตตากันไป ทุกชีวิตพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า 

ธรรมะย่อมชนะอธรรม


ขอขอบคุณภาพจาก google.com
อนาคาริก
06/14/16


จะชื่นชมหรือไล่ล่าดี จะชื่นชมหรือไล่ล่าดี Reviewed by asabha072 on 1:52 AM Rating: 5

No comments:

Powered by Blogger.