เสียใจที่รู้จักชมรมพุทธฯ...
เสียใจที่รู้จักชมรมพุทธฯ...
ผมเป็นเด็กต่างจังหวัดที่มีความฝันหลากหลาย เริ่มต้นอยากเป็นทหาร แต่พอสายตาสั้นเป็นไม่ได้ ก็คิดอยากเป็นหมอ เมื่อฝันสลายสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ ก็เลยเบนเข็มอยากเป็นทนาย มากราบเป็นลูกพ่อขุน ใช้เวลาศึกษาวิชากฎหมายอยู่ ๓ ปี
ในระหว่างที่ศึกษาอยู่นั้น เดินผ่านชมรมพุทธฯเป็นประจำ ชื่นชม แต่ไม่เคยคิดจะเข้า ความรู้สึกต่อชมรมพุทธฯในตอนนั้นคือ พวกนี้เก่งจัง สามารถสวดมนต์ นั่งสมาธิได้ในขณะที่ฝั่งตรงข้ามก็เล่นดนตรี ตรงกลางโถงเขาก็เต้นลีลาศ เป็นภาพที่ชินตาตลอดเวลาที่เรียนอยู่ จนกระทั่งจบการศึกษาเมื่ออายุ ๒๑ ปี
หลังจากจบการศึกษา ไปทำโน่นนี่ จนอายุ ๒๔ ปี จึงเริ่มรู้จักวัดพระธรรมกาย ทำให้ชีวิตของผมเปลี่ยนไป ภาพการมาวัดครั้งแรกยังจำติดตาติดใจ เดินไปทางไหนก็มีแต่คนทัก พี่เพิ่งมาวัดครั้งแรกหรือครับ/คะ เราก็นึกในใจ คนที่วัดนี้ฝึกสมาธิดีจนรู้ว่าเราเพิ่งมาวัดเลยหรือเนี่ย (ที่ไหนได้ ไปส่องกระจก ผมยาวระต้นคอเชียวเรา)
มาวัดได้เดือนเดียว ผมก็ถูกพระอาจารย์ล้างสมอง ให้ฟังเทศน์เรื่องพระคุณบิดามารดา ที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน ฟังไป น้ำตามันไหลพราก ๆ เพราะนึกถึงว่า ตัวเองไม่มีโอกาสได้ตอนแทนพระคุณของท่านทั้งสอง พอดีพระอาจารย์พูดราวกับรู้ใจว่า วิธีแทนคุณที่ดีที่สุดคือ การบวชเอาบุญให้กับท่าน เพราะประโยคนี้เอง ราวกับเปิดทางสว่างให้ชีวิต ผมตัดสินใจเพียงเสี้ยววินาทีว่าผมจะบวชเข้าพรรษา
ในช่วงที่บวชนั่นเอง ที่ทำให้ผมมีโอกาสได้ติดตามพระอาจารย์ไปชมรมพุทธฯ ไม่ว่าจะเป็นที่ จุฬาฯหรือเกษตรศาสตร์ ผมได้พบเห็นวัตรปฏิบัติของเด็ก ๆ ชมรมพุทธฯ ที่น่าชื่นชม เขาตั้งใจทำงาน โดยไม่มีค่าตอบแทน ตั้งใจจัดตักบาตรในมหาวิทยาลัย ตั้งใจจัดนิทรรศการทางก้าวหน้า จัดการสอบตอบปัญหาธรรมะ โครงการต่าง ๆ ที่มุ่งให้เยาวชนเป็นคนดีตามหลักพระพุทธศาสนาสารพัดโครงการ
นึกแล้วก็เสียดายทุกครั้ง หากสมัยที่เรียนรามฯอยู่นั้น ถ้าผมเข้าชมรมพุทธฯ ป่านนี้ผมคงได้รู้จักวัด และเข้าวัดตั้งแต่อายุยังไม่ถึง ๒๐ ปีแล้ว คงสร้างบุญบารมีได้มากกว่านี้อีกเยอะ
ในช่วงที่บวชนั่นเอง ที่ทำให้ผมมีโอกาสได้ติดตามพระอาจารย์ไปชมรมพุทธฯ ไม่ว่าจะเป็นที่ จุฬาฯหรือเกษตรศาสตร์ ผมได้พบเห็นวัตรปฏิบัติของเด็ก ๆ ชมรมพุทธฯ ที่น่าชื่นชม เขาตั้งใจทำงาน โดยไม่มีค่าตอบแทน ตั้งใจจัดตักบาตรในมหาวิทยาลัย ตั้งใจจัดนิทรรศการทางก้าวหน้า จัดการสอบตอบปัญหาธรรมะ โครงการต่าง ๆ ที่มุ่งให้เยาวชนเป็นคนดีตามหลักพระพุทธศาสนาสารพัดโครงการ
นึกแล้วก็เสียดายทุกครั้ง หากสมัยที่เรียนรามฯอยู่นั้น ถ้าผมเข้าชมรมพุทธฯ ป่านนี้ผมคงได้รู้จักวัด และเข้าวัดตั้งแต่อายุยังไม่ถึง ๒๐ ปีแล้ว คงสร้างบุญบารมีได้มากกว่านี้อีกเยอะ
เสียใจที่รู้จักชมรมพุทธฯ...ช้าไป
ขอขอบคุณภาพจาก google.com
อนาคาริก
06/24/16
เสียใจที่รู้จักชมรมพุทธฯ...
Reviewed by asabha072
on
5:00 AM
Rating:
ชมรมพุทธฯ อยู่ตรงไหนหว่า เดินไปเดินมา ไม่เจอซักที ที่แท้ข้านี้ อยู่ชมรมสุรา..เศร้า ที่คนเขียนเขียนบทนี้ช้าไป
ReplyDeleteน้าน
Deleteนั่นนพสิครับน่าเสียดายมากเลยที่เราต้องพลาดโอกาสดีๆที่จะได้รู็จักชมรมพุทะก่อนใครๆ
ReplyDeleteมาช้าดีกว่าไม่มา ...ขอบคุณบทความดีๆ ที่จะเป็นกำลังใจให้คนอยากทำความดีตามครับ
ReplyDeleteอ้อ เสียใจ..ที่รู้จัก..(ช้าไป) แหม..
ReplyDeleteมาช้าดีกว่าไม่มา มาถึงวัดแล้ว อย่าลืมชวนเพื่อนมา และต้องมาตลอดไปนะครับ
ReplyDeleteขอบคุณบทความดีๆ เล่าเรื่องราวได้ดีมากเลยค่ะ...เป็นอดีตสมาชิกและประธานชมรมพุทธ อ่านแล้วปลื้มเลยค่ะ
ReplyDeleteมาช้า ยังดีกว่า ไม่มา
ReplyDeleteช้าไป แต่ไม่ช้าเกิน โชคดีมากครับ หลายคนไม่มีโอกาสได้รู้จักเลยจนตลอดชีวิต
ReplyDeleteส่วนผม เสียใจที่อยู่กะชมรมพุทธ สั้นไป ครับ อิอิ
ReplyDeleteอนุโมทนาบุญสาธุ
ReplyDelete