หลวงพ่อสอนอะไร(ตอนที่ ๗๗) ทำอย่างไรจะไม่ให้มีทิฏฐิมานะ



หลวงพ่อสอนอะไร(ตอนที่ ๗๗)

ทำอย่างไรจะไม่ให้มีทิฏฐิมานะ


     ในการอยู่ร่วมกันในสังคมของคนที่มาจากพื้นฐานที่แตกต่างกัน ย่อมจะหลีกเลี่ยงการมีความเห็นที่ขัดแย้งกันไม่ได้ หากมีความเห็นต่างเกิดขึ้นแล้วมีการยอมกัน เรื่องก็คงจะสงบ แต่หากดื้อดึงจะเอาชนะกัน เรื่องคงจะไม่จบง่าย ๆ


     บางครั้งแม้มีผู้ที่ปรารถนาดี มาชี้ขุมทรัพย์ให้ แต่ด้วยทิฏฐิมานะหรือความถือตัว ก็อาจจะทำให้เราไม่พอใจ ไม่ชอบใจ ขัดอกขัดใจได้


     หลวงพ่อทั้งสอง เป็นต้นแบบของผู้ที่รับฟังความคิดเห็นผู้อื่น หลายครั้งที่ท่านให้โอกาสพวกเราในการแสดงความเห็น แล้วท่านยอมตามความเห็นของพวกเรา แม้ภายหลังก็ต้องกลับมาใช้วิธีการของท่าน

     “ หากเป็นเรื่องงานหยาบที่ดูแล้ว เมื่อผิดพลาดก็แก้ไขได้ หลวงพ่อก็จะยอมตามหมู่คณะ แม้ในที่สุดจะกลับมาใช้วิธีของหลวงพ่อก็ตาม แต่หากเป็นงานละเอียด เป็นเรื่องของวิชชา อันนี้หลวงพ่อยอมไม่ได้ ”

     นั่นคือ แนวทางที่ชัดเจนของหลวงพ่อธัมมชโย


     สำหรับหลวงพ่อทัตตชีโวนั้น อาตมาได้เคยกราบเรียนถามท่านว่า

     “ หลวงพ่อมีวิธีฝึกตัวอย่างไรครับ จึงทำให้หลวงพ่อยอมรับฟังความเห็นของลูก ๆ ทั้งที่โดยสถานะของหลวงพ่อ สามารถที่จะสั่งให้ลูก ๆ ทำอะไรก็ได้ ผมเองยังเคยค้าน ไม่เห็นด้วยกับหลวงพ่อ ก็ไม่เห็นหลวงพ่อจะแสดงอาการไม่พอใจแต่อย่างใด ”

     หลวงพ่อท่านหัวเราะ แล้วพูดว่า

     “ หลวงพ่อได้ครูดี หลวงพ่อไม่เคยเห็นยายทะเลาะกับใคร ไม่เคยเห็นยายมีปากเสียงกับใคร ท่านมีแต่นิ่ง หรือหากจะดูในสมัยพุทธกาลนะ ไปศึกษาเรื่องพระสารีบุตรให้ดี ท่านไปไหนก็ตาม ระมัดระวังตัวเองตลอด ไม่มีความถือตัวว่า ท่านเป็นถึงอัครสาวกเบื้องขวา 
     แต่พอมีใครกล่าวตู่ว่าท่านไม่เห็นหัวเขา เดินให้ชายจีวรโดนเขาได้ ท่านบอกเลยว่า ท่านทำตัวให้เหมือนแผ่นดิน ใครจะทิ้งของเสีย ของหอม ของเหม็น แผ่นดินก็ไม่รู้สึกอึดอัดอะไร หรือทำเหมือนโคเขาขาด ไปไหนก็สงบเสงี่ยม ก็เขามันไม่มีแล้วจะไปกร่างกะใครเขาได้ ”


     ล่าสุดเมื่อคืนวันที่ ๑๑ ต.ค. อาตมา
กับพระอีกรูปหนึ่งได้ไปกราบเรียนถามธรรมะ ท่านได้ตั้งคำถามกับหลวงพ่อว่า

     “ หลวงพ่อครับ ในจำนวนพระที่อยู่ด้วยกันก็มีทั้งผู้ที่มีอายุมาก แต่เพิ่งมาบวช บางครั้งก็ไม่รู้จะบอกกันอย่างไร เพราะท่านก็เคยประสบความสำเร็จทางโลกมาแล้ว ก็มีความภูมิใจ ความถือตัวอยู่ ทำอย่างไรจะมีแนวทางในการลดทิฏฐิมานะได้ครับ ”

     “ ตัวอย่างที่ดีมากเลย คือ พระสารีบุตรนะ พระสารีบุตรนี่ ขนาดเณรเตือนท่านเลยนะ ท่านยังยอมแก้ไข ”

     เนื่องจากอาตมาไม่เคยเจอเรื่องนี้จึงรีบถามหลวงพ่อว่าเรื่องนี้อยู่ที่ไหน ทำให้เห็นคุณธรรมของหลวงพ่อ ในความเป็นครู


     จากเดิมที่หลวงพ่อนั่งที่เก้าอี้ ท่านรีบนั่งลงกับพื้น ค้นแฟ้มข้างโต๊ะทำงาน ทำให้อาตมาต้องรีบเข้าไปนั่งใกล้ แล้วท่านก็ส่งแฟ้มมาให้

     “ มันแก่แล้วชักจะลืม ถ้าเป็นเมื่อก่อน ถามว่าอยู่ตรงไหน หลวงพ่อบอกได้ทันที แต่เดี๋ยวนี้ ต้องให้ดูจากเอกสารนี่แหละ แล้วไปค้นดูรายละเอียดจากพระสูตรดูนะ 


     นี่แหละดูไว้ พระอัครสาวกเบื้องขวานะ แต่ไม่ได้มีความถือตัวเลย เณรน้อยอายุแค่ ๗ ขวบ บอกท่าน แล้วท่านเห็นประโยชน์ รีบไปแก้ไข แล้วมาขอบคุณด้วย ”


     ในฐานะของนักสร้างบารมีที่รักการฝึกตัว เราก็ได้เห็นตัวอย่างจากพระสารีบุตรแล้ว เห็นตัวอย่างจากหลวงพ่อของเราแล้ว ดังนั้นทิฏฐิมานะใดก็ตามที่จะทำให้การสร้างบารมีของเราเนิ่นช้า ก็ให้รีบแก้ไขโดยเร็ว เพราะนอกจากจะเกิดประโยชน์กับตนเองแล้ว ยังจะก่อให้เกิดประโยชน์อันยิ่งใหญ่ต่อหมู่คณะอีกด้วย




ขอขอบคุณภาพจากgoogle.com
อาสภกันโต ภิกขุ
๑๓ ต.ค. ๕๙

หลวงพ่อสอนอะไร(ตอนที่ ๗๗) ทำอย่างไรจะไม่ให้มีทิฏฐิมานะ  หลวงพ่อสอนอะไร(ตอนที่ ๗๗)  ทำอย่างไรจะไม่ให้มีทิฏฐิมานะ Reviewed by asabha072 on 8:02 PM Rating: 5

37 comments:

  1. สาธุๆๆเจ้าค่ะ

    ReplyDelete
  2. การขจัดอัสมิมานะให้หมดได้ เป็นสุขในโลก.. เหมือนว่าจะเคยได้ยินที่ไหนหนอ

    ReplyDelete
  3. ทิฏฐิมานะมีโทษมาก ขอให้เราสาสมรถขจัดออกไปให้ได้มากที่สุด ทุก ๆ ชาติ

    ReplyDelete
  4. สาธุๆๆ กราบอนุโมทนาบุญครับ
    การลดทิฏฐิมานะได้ ย่อมทำให้จิตใจสูงขึ้น เหมาะสมที่จะรองรับธรรมะที่ละเอียดและสูงขึ้นได้ คุณธรรมความดีงามต่างๆก็จะไหลเข้ามาหาตนเองและเพิ่มพูนมากยิ่งขึ้น และส่งผลให้การปฏิบัติธรรมก้าวหน้าด้วย ซึ่งแม้แต่คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ท่านก็ได้ทำเป็นตัวอย่างเป็นต้นบุญต้นแบบให้แก่ศิษยานุศิษย์ด้วยการขัดวิมาน(ห้องสุขา) ซึ่งตรงนี้ก็เท่ากับว่าเป็นการฝึกให้เรารักความสะอาด รักความเป็นระเบียบ และเป็นการลดทิฏฐิมานะไปในตัวด้วย นั่นคือ เป็นพื้นฐานใจที่สำคัญในการศึกษาธรรมะและปฏิบัติธรรมให้ก้าวหน้า จนบรรลุธรรมได้ในที่สุดฯ

    ReplyDelete
  5. ลดทิฏฐิมานะ เพื่อประโยชน์ตน เพื่อประโยชน์ของหมู่คณะ สาธุ ๆ ๆ

    ReplyDelete
  6. หลวงพ่อสอนดีมากค่ะ ทำให้เห็นคุณธรรมของคุณครูอาจาร์ยได้ชัดเจน เรื่องการขัดแย้ง ความเห็นไม่ตรงกัน ทำให้มีทิฐิเกิดขึ้นง่ายการปรับและแก้ไข ให้เป็นไปเพื่อได้ข้อสรุปดีที่สุด ไม่ใช่เป็นเรื่องการเสียหน้า เป็นหัวใจของความสำเร็จ

    ReplyDelete
  7. ราชาวไทยรักชาติศาสน์กษัตริย์
    เราคนวัดรักศาสน์ยิ่งสิ่งไหน
    เราพี่น้องร่วมร้องเพลงชาติไทย
    เราจะไม่ยอมให้ใครย่ำยี
    เราคนไทยรักชาติศาสน์กษัตริย์
    เราถือสัตย์เพื่อชาติเพื่อศักดิ์ศรี
    เราจะร่วมต่อสู้เป็นชาติพลี
    เราจะมีตำนานขานยาวไกล
    เราคนไทยรักชาติศาสน์กษัตริย์
    เราบัญญัติลูกหลานทำดีได้
    เราจะร่วมช่วยกันเพื่อชาติไทย
    เราหวังไว้ชาติไทยต้องเจริญ...

    ReplyDelete
  8. สุดยอดคำสอนของหลวงพ่อค่ะ

    ReplyDelete
  9. ทิฏฐิมานะเป็นสิ่งที่ทำร้ายคนมาเยอะ ถ้าลดลงได้ชีวิตก็มีความสุข สิ่งดีๆ ความรู้ดีๆ หนทางดีๆ ก้จะก้าวมาหาเราได้อย่างไม่ยากนัก

    ReplyDelete
  10. อนุโมทนาบุญสาธุสาธุ

    ReplyDelete
  11. เรื่องนี้เพิ่งเคยได้ยินครั้งแรกคะ จะพยายามฝึกตัวตามคะ

    ReplyDelete
  12. กราบสาธุ เจ้าค่ะที่หลวงพ่อมีเมตตาสั่งสอน

    ReplyDelete
  13. ใครจะเจริญ... หาครูดี ฟังคำครู ตรองตามคำครู และทำตามคำครู เราอยู่ ณ จุดไหนแล้ว เดินหน้ากันต่อไป เจริญแน่นอน กราบขอบพระคุณพระอาจารย์ผู้เขียน ที่มีธรรมะจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อ มาให้ผู้อ่านได้ทบทวน กราบอนุโมทนา และขอคารวะด้วยเฝอกระถาง สาธุ

    ReplyDelete
  14. สาาาาาา...ธุ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    ReplyDelete
  15. คำสอนยาย

    เงียบ...
    เวลายายไม่พอใจใคร ยายจะนิ่งเงียบเฉย ไม่พูดอะไรทั้งสิ้น ไม่แสดงอะไรทั้งสิ้น ยายจะใช้ความอดทน อะไรที่พอทนได้ ยายก็จะเงียบ
    แต่ถ้าสิ่งใดจะทำให้เกิดความเสียหายต่อหมู่คณะส่วนรวมแล้ว ยายก็จะพูด
    เรื่องที่พูดจะเป็นการเป็นงาน ไม่พูดเล่น ยายไม่เคยเถียงพ่อเลย ยายใช้ความเงียบอย่างเดียว เงียบเท่านั้นที่จะชนะ

    มิถุนายน 2527
    จากหนังสือ เมื่อต้องดูแลตัวเอง

    ReplyDelete
  16. อย่าทำอะไรให้คนอื่นเขาเกลียด อย่ามีทิฎฐิมานะ เราเกิดมาสร้างบารมี

    ReplyDelete
  17. กราบอนุโมทนาบุญสาธุค่ะ

    ReplyDelete

Powered by Blogger.