หลวงพ่อสอนอะไร(ตอนที่ ๑๔๓) คุณยายผู้เป็นทุกสิ่ง

 หลวงพ่อสอนอะไร(ตอนที่ ๑๔๓)

คุณยายผู้เป็นทุกสิ่ง

       หน้าที่ประการหนึ่งของการเป็นพระนอกจากการศึกษาธรรมะแล้วก็คือ การนำธรรมะนั้นไปถ่ายทอด ไปแนะนำให้กับสาธุชน ญาติโยม ทั้งนี้ก็ต้องยอมรับความจริงว่า การจะเทศน์สอนนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะหากง่ายป่านนี้ประเทศไทยคงมีพระนักเทศน์ นักบรรยายธรรมเต็มบ้านเต็มเมือง

         หากได้ไปศึกษาดูจะพบว่าผู้เป็นนักเทศน์ที่มีชื่อเสียงในอดีต ล้วนแล้วแต่มีครูบาอาจารย์คอยแนะนำ จ้ำจี้จ้ำไช ตั้งแต่ท่านเหล่านั้นยังเป็นพระหนุ่ม เณรน้อยมาก่อนทั้งสิ้น 

        อาตมาได้กราบเรียนถามหลวงพ่อทัตตชีโวว่า หลวงพ่อได้ฝึกการเทศน์อย่างไร ฝึกนานแค่ไหน จึงทำให้การเทศน์ของท่านมีเอกลักษณ์และนำไปสู่การฝึกตัวได้

         " ...ความที่หลวงพ่อเป็นคนที่ชอบอ่าน ชอบค้นคว้า นั่นคือข้อดีของการเก็บสะสมข้อมูล อีกประการหนึ่งคือ เมื่อมาพบหลวงพ่อธัมมะกับคุณยาย หลวงพ่อสงสัยอะไรก็จะสอบถามท่าน แต่สำหรับผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องการเทศน์สอนของหลวงพ่อนั้นคือ คุณยายอาจารย์ของพวกเรานี่แหละ"

         เมื่อหลวงพ่อเห็นอาตมาทำหน้าสงสัย ท่านจึงได้เมตตาขยายความต่อไปว่า

         เมื่อหลวงพ่อบวชได้เพียงเข้าสัปดาห์ที่สอง คุณยายก็บอกเลย "หลวงพ่อทัตตะ ยายแก่แล้ว ถึงเวลาที่ท่านต้องเทศน์แทนยายแล้วหล่ะ"

         " คุณยาย พระยังไม่ได้เรียนเทศน์เลย จะไปเทศน์ไปสอนได้อย่างไร"

         คุณยายท่านรีบบอกเลย " ท่าน เรื่องที่จะเทศน์ จะไปยากอะไร ถามตัวเองว่า ตั้งแต่เจอยาย มาอยู่กะยาย เกือบ ๕ ปี ท่านแก้นิสัยของท่านเรื่องอะไรได้บ้าง แล้วเอาเรื่องนั้นแหละมาเทศน์ให้เขาฟัง"

         " คุณยาย แล้วเอาเรื่องของตัวเองที่แก้ได้ ไปเล่าให้เขาฟัง มันจะตรงกับเรื่องของคนอื่นหรือ"

         " ท่าน จำไว้นะ ยายนั่งเข้าที่ตรวจมาแล้ว เมื่อ ๑,๐๐๐ ปีที่แล้ว คนมีกิเลส ๓ ตัว โลภ โกรธ หลง เดี๋ยวนี้ก็โลภ โกรธ หลง อีก ๑,๐๐๐ ปีข้างหน้า ก็โลภ โกรธ หลง เหมือนเดิม ต่างกันก็เพียงเครื่องมือที่จะนำมาใช้ สัดส่วนของความโลภ ความโกรธ ความหลง เท่านั้นที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้น ให้ท่านเอาหลักการนี้ไปใช้"

         เมื่อคุณยายบอกอย่างนี้ ทำให้หลวงพ่อมาคิดต่อ ถ้าโลภเมื่อก่อนก็แอบไปขโมย ทุกวันนี้ก็มีโกงบัตร ATM มีการแฮคข้อมูลต่าง ๆ สัดส่วนความโลภ โกรธ หลง เท่านั้นที่ไม่เท่ากัน เหมือนแม่สีมี ๓ สี แดง เหลือง น้ำเงิน แต่มันสามารถผสมกันได้เป็นสารพัดสี

         แล้วหลวงพ่อก็ถามคุณยายต่อว่า " คุณยายแล้ววิธีการเทศน์หล่ะจะต้องทำอย่างไร? " คุณยายก็ตอบชัดเจนเลยว่า " หลวงพ่อทัตตะนะ ตั้งแต่เรียนหนังสือมา มีครูมาแล้วกี่คน ประทับใจวิธีการสอนของครูคนไหน อาจารย์คนไหน ก็หยิบเอามาใช้ เอามาหลายคนก็ได้ แล้วต่อไปจะหาวิธีของตนเองได้ "

         อาตมาฟังหลวงพ่อท่านเล่าด้วยความปลื้มใจแล้วท่านก็ทิ้งท้ายไว้ว่า " ดูเอานะ คุณยายซึ่งอ่านหนังสือก็ไม่ได้ เขียนก็ไม่ได้ นี่แหละ แต่สอนแนวทางการเทศน์และวิธีการเทศน์ให้หลวงพ่อ เพราะได้ครูดีอย่างนี้ ทำให้หลวงพ่อมีวันนี้... "

                                                                            อาสภกันโต ภิกขุ

                                                                               ๙ พ.ย. ๖๔