หลวงพ่อสอนอะไร(ตอนที่ ๒๒)
หลวงพ่อสอนอะไร(ตอนที่ ๒๒)
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณและอนุโมทนาบุญกับดร.ชนิดา ที่ช่วยแสดงความคิดเห็นในตอนที่ ๒๑ ทำให้อาตมาเกิดแรงบันดาลใจในการเขียนตอนที่ ๒๒ นี้
หน้าที่ที่สำคัญประการหนึ่งของพ่อแม่ตามหลักธรรมในพระพุทธศาสนาคือ การให้การศึกษา
อาตมามั่นใจว่า ยากที่จะหาพ่อแม่คนไหนจะเอาใจใส่ในเรื่องการศึกษาของลูก ๆ ได้ดีเท่ากับหลวงพ่อทั้งสอง หลายแห่งเราอาจจะเห็นว่ามีการเข้มงวดในเรื่องการเรียนบาลี บางแห่งเป็นเลิศด้านการเรียนนักธรรม บางแห่งก็เน้นเรื่องการเรียนปริยัติสามัญหรืออื่น ๆ ก็มีหลากหลายกันไป
ด้วยความทุ่มเทของหลวงพ่อธัมมชโยที่ต้องการให้ลูกเณรสืบอายุพระพุทธศาสนา จึงมีนโยบายให้มีการเรียนการสอนทั้งนักธรรม บาลี พระไตรปิฎก จนกระทั่งในปัจจุบันได้รับการยอมรับว่าวัดพระธรรมกายเป็นสำนักเรียนที่มีผู้สอบบาลีได้มากเป็นอันดับต้น ๆ
นอกจากการศึกษาด้านปริยัติแล้ว หลวงพ่อยังได้เคี่ยวเข็ญให้สามเณรรักการภาวนา โดยสามเณรจะต้องนั่งสมาธิทั้งเช้า เย็น หลังจากทำวัตรและหากช่วงไหนที่ว่างเว้นจากการศึกษา หลวงพ่อจะให้ปลีกตัวไปปฏิบัติธรรมที่ดอยสุเทพ-ปุย โดยหลวงพ่อธัมมชโยจะไปควบคุม ดูแล และให้คำแนะนำกับสามเณรด้วยตัวของท่านเอง
เท่านั้นยังไม่พอ ด้วยความเห็นการณ์ไกลว่าสามเณรจะต้องเป็นผู้สืบอายุพระศาสนา หลวงพ่อได้จัดการหาวิทยากรจากสถาบันที่มีชื่อเสียงมาฝึกอบรมการพูดให้กับสามเณร ทำให้สามเณรกล้าพูด กล้าคิด เพราะจะต้องเตรียมตัวพูดในหัวข้อที่กำหนดหรือที่ตนเองเลือก ในช่วงนั้น พระพี่เลี้ยงต้องคอยให้คำแนะนำและคอยเป็นที่ปรึกษาพร้อมทั้งต้องทนฟังเรื่องที่สามเณรจะต้องออกไปพูด ที่ใช้คำว่า ทนฟัง เพราะบางครั้งเราก็มีงาน มีธุระ แต่สามเณรเกิดมีอารมณ์อยากจะซ้อมพูด ก็ต้องคอยฟัง บางครั้งเดินไปเข้าห้องน้ำ พอออกมาเณรน้อยก็ยืนรออยู่ อยากซ้อมในห้องน้ำนั่นแหละ ทำไงได้ เห็นเขากระตือรือร้นขนาดนั้น เราก็ไม่กล้าปฏิเสธ
ยัง ยังไม่พอ หลวงพ่อทัตตชีโวท่านต้องการจะให้สามเณรฝึกเขียน จึงต้องมีการแจก สมุด ดินสอ แล้วให้บันทึกประจำวัน แรก ๆ ก็เขียนกันไม่เป็น หลวงพ่อก็ให้คำแนะนำว่า
“ เขียนไปเถอะลูก อยากเขียนอะไรให้เขียน เอาตั้งแต่ตื่นมาเดินเข้าห้องน้ำ ไปแปรงฟัน ล้างหน้า แล้วไปสวดมนต์ ก็ว่าไป เดี๋ยวอีกหน่อยก็เก่งเอง ”
พอหลวงพ่อแนะอย่างนี้ ปรากฎว่าช่วงอาทิตย์แรก แทบทุกรูปข้อความจะเป็นแนวที่หลวงพ่อแนะ แต่พอผ่านไปสักค่อนเดือน เริ่มมีแววนักเขียนปรากฎ เริ่มรู้จักการบรรยายเหตุการณ์ต่าง ๆ และพัฒนาขึ้นเป็นการใส่ความเห็นเข้าไปในบันทึกด้วย
เมื่อผ่านไประยะหนึ่งหลวงพ่อเห็นว่าเริ่มรู้จักการเขียนกันบ้างแล้ว ท่านก็ไม่หยุดแค่นั้น ก้าวต่อไปคือการฝึกให้สามเณรเขียนกลอน อาตมาเคยกราบเรียนถามหลวงพ่อว่า ทำไมหลวงพ่อต้องให้สามเณรฝึกทั้งพูดทั้งเขียน อาตมารู้ว่ามีประโยชน์แต่นึกไม่ออกว่า หากสามเณรถามจะให้เหตุผลกับเขาอย่างไรดี
แทนที่จะตอบคำถาม หลวงพ่อกลับถามอาตมากลับว่า
“ ท่านคิดว่า การเป็นผู้นำต้องศึกษาวิชาอะไร ”
“ ผมว่าต้องศึกษารัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ครับ จะได้แนวทางในการปกครองและการออกกฎหมายเพื่อการปกครอง ” อาตมาตอบไปตามความรู้สึก
หลวงพ่อถามต่อไปอีกว่า “ หากเป็นผู้นำ ต่อให้มีความรู้มากแค่ไหน แต่ไม่สามารถถ่ายทอดสิ่งที่อยากจะบอกให้กับคนของตน จะมีประโยชน์ไหม ” แล้วท่านก็เมตตาอธิบายต่อไปว่า
“ วันหนึ่งข้างหน้า ลูกเณรจะต้องไปเป็นผู้นำ จะต้องเอาธรรมะไปเผยแผ่ สิ่งที่ต้องเรียนรู้ ต้องศึกษาคือ วิชาอักษรศาสตร์ เพื่อให้สามารถไปสื่อสารกับผู้อื่นได้ หลวงพ่อให้ฝึกการพูด เพื่อจะได้พูดเป็น การพูดเป็นไม่ใช่สักแต่พูด น้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรง แต่พูดดี พูดเป็น พูดไม่กี่คำ คนเข้าใจได้
และการที่หลวงพ่อให้ฝึกเขียนกลอน เพื่อให้รู้จักการสรุปเป็น ลองนึกดูสิ ภายในกลอนหนึ่งบท ต้องสามารถให้จบเรื่องราวได้ ให้เณรฝึกเขียนกลอนให้ดี เอามาให้หลวงพ่อตรวจด้วย อ้อ ให้พระพี่เลี้ยงเขียนมาด้วย ”
จากวันนั้น นอกจากจะต้องนำสรุปบันทึกเหตุการณ์ประจำวันในแผนกสามเณรไปถวายหลวงพ่อแล้ว อาตมาต้องเอาสมุดเขียนกลอนของพระพี่เลี้ยงและสามเณรไปถวายให้หลวงพ่อตรวจด้วย อาตมาจำได้ดีถึงสีหน้าของหลวงพ่อเวลาท่านตรวจดูกลอนของสามเณร ท่านจะมีความสุขมาก อ่านไป ยิ้มไป เขียนคำแนะนำไปด้วย บางครั้งท่านก็ขำ เมื่ออ่านของพระพี่เลี้ยง ท่านบอกเขียนสู้เณรไม่ได้ พร้อมกับพยากรณ์ว่า
“ คอยดูนะ ต่อไปลูกเณรมันจะเขียนกลอนกันเก่ง ”
และวันนี้สิ่งที่หลวงพ่อได้พยากรณ์ไว้ก็เป็นจริง จากสามเณรองค์น้อย ๆ กลายเป็นพระมหาที่แต่งโคลง ฉันท์ กาพย์ กลอนได้ไพเราะอย่างหาตัวจับยาก บางรูปสามารถพิมพ์บทกลอนธรรมะออกมาได้หลายเล่มแล้ว
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นผลงานจากนักปั้นชั้นเลิศคือ หลวงพ่อทั้งสองนั่นเอง
ขอขอบคุณภาพจาก google.com
อาสภกันโต ภิกขุ
๑๐ ส.ค. ๕๙
หลวงพ่อสอนอะไร(ตอนที่ ๒๒)
Reviewed by asabha072
on
1:26 AM
Rating:
ติดตามอ่าน หลวงพ่อสอนอะไร มาทุกตอน ปลื้มๆๆทุกตอน ยิ่งรู้จักก็ยิ่งรักหลวงพ่อมากขึ้นทุกๆวัน กราบอนุโมทนาบุญกับพระอาจารย์ที่เอาเรื่องดีๆมาเล่าให้ฟัง กราบสาธุๆๆเจ้าค่าาา
ReplyDeleteสาธุ เขียนไปก็ปลื้มไปเช่นเดียวกัน
Deleteสาธุ เขียนไปก็ปลื้มไปเช่นเดียวกัน
Deleteรู้อะไรไม่สู้รู้งี้..ไม่งั้นบวชเป็นสามเณรดีกว่า
ReplyDeleteปลื้มใจที่ได้มาเป็นลูกพระพ่อ
ReplyDeleteสาธุค่ะ
ReplyDeleteสาธุค่ะ
ReplyDeleteดีใจปลื้มใจที่เกิดมาพบและได้น้อมนำคำสอนของหลวงพ่อทั้งสองมาใช้ในชีวิตจริงได้อย่างลงตัว
ReplyDeleteแม่แบบมีความสำคัญในการที่จะทำให้วัตถุมีรูปร่างต้นแบบก็เช่นกัน มีความสำคัญต่อการพัฒนาคน
ReplyDeleteสาธุครับ
ReplyDeleteยิ่งรู้จักยิ่งรักหลวงพ่อ
ReplyDeleteสาธุค่ะ
ReplyDeleteขอกราบอนุโมทนาสาธุการ สาธุครับ
ReplyDeleteสาธุๆๆๆๆครับ
ReplyDeleteกราบ กราบ กราบ สาธุ สาธุ สาธุ ครับผม
ReplyDeleteสาธุ มีแม่พิมพ์ดี อย่างหลวงพ่อทั้งสองและพระอาจารย์ทุกรูปของวัดพระธรรมกาย ผลผลิตย่อมยอดเยี่ยมดังพระภิกษุสามเณรของวัดพระธรรมกายที่ล้วนเป็นที่ตั้งแห่งศรัทธาของสาธุชน
ReplyDeleteกราบขอบพระคุณพระอาจารย์ที่ได้ถ่ายทอดถึง....ความเมตตาของพระเดชพระคุณของหลวงพ่อทั้งสองที่เพียรเฝ้าอบรมสั่งสอนดูแลลูกพระลูกเณรอย่างดียิ่งดุจพ่อแม่ดูแลลูก เป็นครูผู้ยิ่งใหญ่ เป็นทุกๆอย่างจะหาถ้อยคำใด มากเท่าใดมาสรรเสริญก็ไม่เพียงพอ ก็เพื่่อสร้างพระแท้...สืบอายุพระพุทธศาสนา...สาธุ สาธุ สาธุเจ้าค่ะ
ReplyDeleteสาธุเจ้าค่ะ
ReplyDeleteหลวงพ่อเป็นครู ที่สอนลูกๆทุกคนเท่าเทียมกัน
ReplyDeleteแล้วแต่ลูกคนไหนจะรับการถ่ายทอดไปเยอะ
และนำไปปฎิบัติ
ทำตามลพ่อสอนเจริญแล
ReplyDeleteปลื้มจัง
ReplyDeleteสาธุค่ะ
ReplyDeleteพ่อผู้ยิ่งใหญ่ ของโลกและจักรวาล
ReplyDeleteสาธุครับ
ReplyDeleteพระพ่อผู้เป็นต้นแบบต้นบุญที่ดี แก่ลูกๆทั้งหลาย..
ReplyDeleteกราบอนุโมทนาบุญ กับพระเดชพระคุณหลวงพ่อทั้งสองรูปด้วยนะครับ
มีความสุขทุกครั้งที่ได้อ่านค่ะ
ReplyDeleteปลื้มครับ หลวงพ่อทั้งสองสุดยอดแห่งครู
ReplyDeleteปลื้มใจและภาคภูมิใจที่หลวงพ่อทั้งสองเป็นต้นแบบในการสร้างพระให้เป็นพระ.....ติดตามอ่านหลวงพ่อสอนอะไร เขียนถ่ายทอดได้ดีมากค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ
ReplyDeleteสาธุ
ReplyDeleteสาธุ
ReplyDeleteหลวงพ่อทั้ง 2 รูปสอนส่งเสริม ให้กำลังใจ ให้ทุกคนทำความดี รวมทั้งทำเป็นตัวอย่าง
ReplyDeleteVenerable Sir, you do write so well and I love reading every single one of your articles. Namaskar!
ReplyDeleteThanks. I will try to do the best for all of you and hope you can get any ideas from the articles.
Deleteอ่านแล้วก็ได้สอนตัวเองไปด้วยเลยค่ะ อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ สาธุ
ReplyDeleteน่าทำตาม
ReplyDeleteลูกพระลูกเณรควรได้อ่านงานเขียนชิ้นนี้ตั้งแต่ต้นจนจบมีประโยชน์มาก ในการนำไปพัฒนาตนเอง
ReplyDeleteสาธุค่ะ ปลื้มใจมากค่ะ
ReplyDelete"ครูบาอาจารย์ที่เราแสวงหา" ยากที่จะหาผู้ใดเสมอเหมือน
ReplyDeleteสาธุๆๆ ขอกราบอนุโมทนาบุญครับ
อ่านที่พระอาจารย์ส่งมาหลายตอน ตอนนี้รู้สึกตัวเลยว่า ชาตินี้มาช้าไป ต้องเร่งสั่งสมบุญ อธิษฐานชาติหน้าเกิดมาขอให้ได้บวชกับหลวงพ่อตั้งแต่เล็กเลยดีกว่า กราบแทบเท้าพระเดชพระคุณหลวงพ่อทั้งสอง และกราบขอบพระคุณพระอาจารย์ที่นำธรรมะมาถ่ายทอดครับ
ReplyDeleteปลื้มไม่จบครับ สาธุ
ReplyDeleteสาธุค่ะ
ReplyDeleteสาธุค่ะ
ReplyDeleteกราบอนุโมทนาบุญด้วยครับ ได้รู้และทราบว่าหลวงพ่อท่านมีความสามารถทุกอย่างจริงๆ
ReplyDeleteหลวงพ่อทั้สองท่านเป๋น ต้นบุญ ต้นแบบ ในการภ่ายถอดพระธรมม คำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไปยังศิษยานุศิษย์ทั้งหลายอย่างแตกฉานจริง ๆ สาธุ
ReplyDeleteพระเดชพระคุณหลวงพ่อทั้งสองสมเป็นครูแท้ครูต้นแบบของโลกอย่างแท้จริง กราบนมัสการดว้ยความเคารพสูงสุดเจ้าค่ะ
ReplyDeleteพระเดชพระคุณหลวงพ่อทั้งสองสมเป็นครูแท้ครูต้นแบบของโลกอย่างแท้จริง กราบนมัสการดว้ยความเคารพสูงสุดเจ้าค่ะ
ReplyDeleteสาธุเจ้าค่ก
ReplyDeleteสาธุเจ้าค่ก
ReplyDeleteกราบอนุโมทนาบุญสาธุค่ะปลื้มใจค่ะโชคดีที่สุดที่ได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนาพบพระเดชพระคุณหลวงพ่อทั้งสองค่ะ
ReplyDeleteสาธุ
ReplyDeleteสาธุครับ
ReplyDeleteสาธุ หลวงพ่อทั้งสองทำให้พระเณรวัดพระธรรมกายเป็นผู้มีความรู้ และเป็นผู้นำที่ดีค่ะ
ReplyDeleteสาธุค่ะ
ReplyDeleteพระเดชพระคุณหลวงพ่อรักและปรารถนาดีต่อเราไม่เพียงชาตินี้เท่านั้น แต่ยังห่วงใยไปข้ามชาติ คอยเคี่ยวเข็ญให้เราประพฤติปฏิบัติแต่บุญกุศล ให้ลดละเลิกนิสัยที่ไม่ดีงาม ท่านสอนให้เราเป็นผู้ที่พร้อมจะฝึกตัวตลอดเวลาเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องของเราให้หมดไป เป็นบุญของพวกเราจริงๆ นะคะที่มีพระเดชพระคุณหลวงพ่อเป็นครูบาอาจารย์ผู้ชี้ทางสว่างให้
ReplyDeleteสาธุ
ReplyDelete🌹💐💐💐🙏🙏🙏
ReplyDeleteสาธุเจ้าค่ะ
ReplyDeleteสาธุเจ้าค่ะ
ReplyDeleteสาธุค่ะ เขียนเยอะๆเลยนะเจ้าค่ะ ชอบอ่านมากๆๆเลยค่ะ
ReplyDelete
ReplyDeleteศาสนาพุทธเป็นพระพุทธศาสนาที่ทำให้โลกเย็น หลวงพ่อธัมมชโยมีกิจกรรมฟื้นฟูศีลธรรมหลายอย่างที่ทำให้โลกดีขึ้น
สาธุๆๆๆ ค่ะ
ReplyDeleteสาธุๆๆๆ ค่ะ
ReplyDeleteสาธุค่ะ
ReplyDeleteสาธุค่ะ
ReplyDeleteสาธุเขียนได้ดีมากเลยครับ
ReplyDeleteสาธุค่ะ
ReplyDeleteสาธุเขียนได้ดีมากเลยครับ
ReplyDeleteสาธุครับ
ReplyDeleteสาธุค่ะได้ฟังเรื่องดีๆที่หลวงพ่อทั้งสองสอน ดีจังเลยค่ะ
ReplyDeleteกราบอนุโมทนาบุกับพระอาจารย์ด้วยนะครับ สาธุๆๆ
ReplyDeleteกราบอนุโมทนาบุกับพระอาจารย์ด้วยนะครับ สาธุๆๆ
ReplyDeleteสาธุครับหลวงพ่อที่ได้เมตตาให้ความรู้ดีๆ
ReplyDeleteสาธุครับหลวงพ่อที่ได้เมตตาให้ความรู้ดีๆ
ReplyDeleteสาธุค่ะ
ReplyDeleteสาธุค่ะ
ReplyDeleteสาธุค่ะ
ReplyDeleteสาธุ สาธุ สาธุ
ReplyDeleteสาธุครับ
ReplyDeleteหลวงพ่อต้องการฝึกพระ-เณรของท่าน ให้เก่งการเผยแผ่พระพุทธศาสนาด้วยการปูพื้นฐานง่ายๆคือ
ReplyDeleteการจดบันทึกประจำวัน
เป็นกุศโลบายที่ยอดเยี่ยมในการฝึกพระ ,เณร ให้เก่งและดีไปเรื่อยๆ
สาธุๆๆ
ReplyDeleteยอดคนฝึกคนเป็นเยี่ยงนี้เอง
ReplyDeleteยิ่งรู้จัก ยิ่งรักหลวงพ่อฯครับ
ReplyDeleteมีบุญที่เกิดมาเจอหลวงพ่อเจ้าค่ะ
ReplyDeleteมีบุญที่เกิดมาเจอหลวงพ่อเจ้าค่ะ
ReplyDeleteCommunication skill (and other soft skills) is definitely very important in every career. Luang Por is so well-rounded, long-term oriented, and thoughtful teacher.
ReplyDeleteชอบมาก
ReplyDeleteครับ ติดตามผลงานทุกตอนเลยครับ
สาธุค่ะ
ReplyDeleteขอติดตามไปพบและปฏิบัติตามคำสอนหลวงปู่ หลวงพ่อ คุณยายทุกภพทุกชาติเจ้าค่ะ
ReplyDeleteทำดีที่ยิ่งใหญ่
ReplyDeleteอ่านแล้วปลื้มเจ้าคะ สาธุๆๆ
ReplyDeleteสาธุๆๆค่ะ
ReplyDeleteยิ่งอ่านยิ่งมีความสุข สาระพ้ดสุขทุกข์ที่หลวงพี่เล่า ทำให้รู้จักหลววพ่อมากขึ้นทุกขั้น ตอนกราบขอบพระคุณค่ะ
ReplyDeleteยิ่งอ่านยิ่งมีความสุข สาระพ้ดสุขทุกข์ที่หลวงพี่เล่า ทำให้รู้จักหลววพ่อมากขึ้นทุกขั้น ตอนกราบขอบพระคุณค่ะ
ReplyDeleteยอดคนฝึกคนเป็นเยี่ยงนี้เอง
ReplyDeleteสาธุ_กราบอนุโมทนาบุญหลวงพ่อทั้ง 2 เจ้าค่ะที่นำสิ่งที่ดีที่สุดมาสั่งสอน_ชึ้_แนะ_นำมาตลอดทำให้ชีวิตนี้มีคุณค่า สาธุ
ReplyDeleteสาธุๆๆ กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาบุญกับพระอาจารย์ที่นำเรื่องราวเหตุการณ์จริงมาเล่าให้ผู้ที่มาภายหลังได้เห็นภาพพระเดชพระคุณหลวงพ่อทั้งสองชัดเจนขึ้นค่ะ
ReplyDeleteสาธุเจ้าค่ะ...ท่านนำความเป็นจริงมาเล่าให้สาธุชนเข้าใจมากขึ้น
ReplyDelete