หลวงพ่อสอนอะไร(ตอนที่ ๑๕)
หลวงพ่อสอนอะไร(ตอนที่ ๑๕)
หากเราย้อนไปถึงวันที่พระบรมศาสดาท่านตรัสรู้ เราจะพบว่า สิ่งที่พระองค์ทรงค้นพบที่เรียกว่า “ ธรรมะ ” นั้น แท้จริงแล้ว คือ การค้นพบความจริงของชีวิต ซึ่งเป็นความรู้ที่ซ่อนอยู่ภายในตัวของมนุษย์ พระองค์เป็นบุคคลแรกที่เข้าไปพบ ไปรู้ ไปเห็นความจริงอันนี้
หลวงพ่อธัมมชโย มักจะให้โอวาทลูก ๆ เสมอว่า
“ ธรรมกาย คือกายตรัสรู้ธรรม ซึ่งมีอยู่ในตัวของมนุษย์ทุกคน โดยไม่จำกัดว่าจะเป็นเชื้อชาติ ศาสนา เผ่าพันธุ์หรือมีความเชื่ออย่างไร จะเป็นเพศ วัย ไหนไม่สำคัญ เมื่อใจหยุดนิ่งได้ถูกส่วน เป็นต้องเข้าถึงพระธรรมกาย ”
จากความรู้เรื่องนี้ ทำให้หลวงพ่อธัมมชโย ทุ่มเทเผยแผ่ธรรมปฏิบัติ เพื่อให้คนได้เข้าถึงธรรมะภายใน เพราะเมื่อใดก็ตามที่ทุกคน เห็นเหมือนกัน ความคิด คำพูด
การกระทำ จะออกมาจากแหล่งที่บริสุทธิ์เช่นเดียวกัน จะส่งผลให้เกิดสันติสุขที่แท้จริงเกิดขึ้น ดังคำกล่าวที่ว่า
อาตมาได้พิสูจน์คำพูดข้างต้นด้วยตนเอง จึงเกิดความเชื่อมั่นและขอนำมาเล่าสู่กันฟัง ก่อนที่จะชราภาพ จนนึกอะไรไม่ออก
เมื่อเอ่ยชื่อ วัดถ้ำพุหว้า คิดว่าหลาย ๆ ท่านคงจะรู้จักกันดี อาตมารู้จักวัดแห่งนี้ จากการแนะนำของหลวงพี่รูปหนึ่งซึ่งรักการปฏิบัติ ท่านเป็นผู้พาอาตมาไปปลีกวิเวก สมัยนั้นที่วัดนี้ยังไม่มีสิ่งก่อสร้างอะไรเลย นอกจากกุฎิไม่กี่หลัง เมื่อคณะของอาตมา ๓ รูป ไปพัก เราจับจองที่ในถ้ำ กะว่าจะใช้ชีวิตแบบพระธุดงค์
ในถ้ำแห่งนี้ นอกจากลานกว้างใกล้ปากทางเข้าถ้ำแล้ว จะมีทางให้เดินเข้าไปข้างในได้ แต่มืดมาก หากเข้าไปไม่ลึกจากปากถ้ำนักแค่ยกมือขึ้นมาระยะ ๑ ฟุต ยังไม่เห็นมือของตัวเอง
สิ่งมีชีวิตที่มีชื่อเสียงมากก็อาศัยอยู่ในถ้ำแห่งนี้ ซึ่งเดี๋ยวนี้หาได้ยากแล้ว อย่าเดาให้ยากเลย เฉลยเลยดีกว่า เขาเรียกเจ้าตัวนี้ว่า
เมื่อเห็นถ้ำ อาตมาชอบใจมาก เพราะเคยคิดฝันเสมอเมื่ออ่านหนังสือโลกทิพย์ว่า ครั้งหนึ่งในชีวิต ต้องหาประสบการณ์ในการอยู่ป่า อยู่ถ้ำ
เอ้า ! ตั้งหลักใหม่ ภาพงูใหญ่เลื้อยออกมาจากรูสักแห่งในถ้ำ โผล่มาอีก ชัดเชียว ในที่สุดไม่ไหวแล้ว จะเรียกพระเพื่อนก็กลัวจะเสียฟอร์ม เลยค่อย ๆ เลื่อนตัวช้า ๆ จากด้านใน ค่อย ๆ ขยับไม่ให้มีเสียง เพื่อไปให้ใกล้ปากถ้ำที่สุด พอขยับมาถึงครึ่งทาง อาตมาก็ตกใจสุดขีดอีกรอบเพราะชนกับอะไรไม่ทราบรู้สึกแต่ว่านุ่ม ๆ แต่แล้วก็มีเสียงดังขึ้นพร้อมกันสามเสียง “ เฮ้ย ! ”
ที่แท้ผู้กล้าทั้งสาม ต่างก็พร้อมใจกันเคลื่อนตัวไปหาปากถ้ำพร้อม ๆ กัน พอรู้สึกตัว ขำกันจะแย่ โธ่ ! นึกว่าแน่
ทำให้นึกถึงคำของหลวงพ่อธัมมชโยที่ท่านพร่ำสอนว่า
“ แม้สถานที่จะเป็นสัปปายะแค่ไหนก็ตาม หากใจไม่หยุดนิ่งก็ไม่เข้าถึงองค์พระ แต่ตรงกันข้าม หากที่นั้น ๆ แม้แวดล้อมไปด้วยสิ่งรบกวนมากมาย แต่หากใจเราไม่ได้ไปจรดจ่อกับสิ่งแวดล้อมนั้น แต่เอาใจกลับเข้าสู่ภายใน หยุดนิ่งถูกส่วน ก็จะเข้าถึงองค์พระภายใน”
จึงได้บทเรียนล้ำค่าว่า การแสวงหาความสงบที่แท้จริงนั้น ไม่ใช่การไปค้นหาจากสิ่งที่อยู่ภายนอก เพราะความสงบที่แท้จริงนั้น อยู่ภายในตัวของเรานี่เอง
(โปรดติดตามความประทับใจเรื่องที่ ๒ ในโอกาสต่อไป)
ขอขอบคุณภาพจาก google.com
อาสภกันโต ภิกขุ
๒ ส.ค. ๕๙
" สันติภาพภายนอกเกิดจากสันติสุขภายใน "
อาตมาได้พิสูจน์คำพูดข้างต้นด้วยตนเอง จึงเกิดความเชื่อมั่นและขอนำมาเล่าสู่กันฟัง ก่อนที่จะชราภาพ จนนึกอะไรไม่ออก
เมื่อเอ่ยชื่อ วัดถ้ำพุหว้า คิดว่าหลาย ๆ ท่านคงจะรู้จักกันดี อาตมารู้จักวัดแห่งนี้ จากการแนะนำของหลวงพี่รูปหนึ่งซึ่งรักการปฏิบัติ ท่านเป็นผู้พาอาตมาไปปลีกวิเวก สมัยนั้นที่วัดนี้ยังไม่มีสิ่งก่อสร้างอะไรเลย นอกจากกุฎิไม่กี่หลัง เมื่อคณะของอาตมา ๓ รูป ไปพัก เราจับจองที่ในถ้ำ กะว่าจะใช้ชีวิตแบบพระธุดงค์
ในถ้ำแห่งนี้ นอกจากลานกว้างใกล้ปากทางเข้าถ้ำแล้ว จะมีทางให้เดินเข้าไปข้างในได้ แต่มืดมาก หากเข้าไปไม่ลึกจากปากถ้ำนักแค่ยกมือขึ้นมาระยะ ๑ ฟุต ยังไม่เห็นมือของตัวเอง
สิ่งมีชีวิตที่มีชื่อเสียงมากก็อาศัยอยู่ในถ้ำแห่งนี้ ซึ่งเดี๋ยวนี้หาได้ยากแล้ว อย่าเดาให้ยากเลย เฉลยเลยดีกว่า เขาเรียกเจ้าตัวนี้ว่า
“ ค้างคาวกิตติ ” เป็นการตั้งชื่อเพื่อให้เกียรติแก่ผู้พบคนแรก เจ้าตัวนี้เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่เล็กที่สุดในโลก
ที่ถ้ำแห่งนี้มีเรื่องที่อาตมาประทับใจหลายเรื่อง แต่จะขอเล่าเพียง ๒ เรื่อง
ที่ถ้ำแห่งนี้มีเรื่องที่อาตมาประทับใจหลายเรื่อง แต่จะขอเล่าเพียง ๒ เรื่อง
เรื่องแรก โธ่! นึกว่าแน่
เมื่อเห็นถ้ำ อาตมาชอบใจมาก เพราะเคยคิดฝันเสมอเมื่ออ่านหนังสือโลกทิพย์ว่า ครั้งหนึ่งในชีวิต ต้องหาประสบการณ์ในการอยู่ป่า อยู่ถ้ำ
เมื่อจัดที่พักเสร็จ ก็แยกย้ายกันหามุมปฏิบัติธรรม อาตมาเข้าไปอยู่ส่วนลึกด้านใน เมื่อปูอาสนะเรียบร้อย ก็ลงมือตามที่หลวงพ่อได้สอนไว้ ปรับท่านั่งจนเข้าที่ พอตอนจะปรับใจนี่สิ เป็นเรื่องแล้ว พอจะวางใจนิ่ง ๆ เรื่องราวในหนังสือโลกทิพย์ขึ้นมาเลย พระธุดงค์บางรูป ท่านเจองูใหญ่ในถ้ำ เจอภูติผีบ้าง ขอสารภาพเลยว่า หาความหยุดนิ่งไม่เจอเลย พอใจจะนิ่ง มีคำถามผุดมาแล้ว จะมีงูใหญ่โผล่ออกมาไหม ถ้ามานี่เจอเราก่อนเลยนะ ขณะที่กำลังคิดกังวลอยู่ ก็ตกใจแทบช้อค เมื่อมีอะไรบางอย่างปะทะที่ศีรษะอย่างจัง ตกใจจนร้องไม่ออก ที่แท้เจ้าค้างคาวกิตติบินมาชน โอ๊ย หัวใจจะวาย
เอ้า ! ตั้งหลักใหม่ ภาพงูใหญ่เลื้อยออกมาจากรูสักแห่งในถ้ำ โผล่มาอีก ชัดเชียว ในที่สุดไม่ไหวแล้ว จะเรียกพระเพื่อนก็กลัวจะเสียฟอร์ม เลยค่อย ๆ เลื่อนตัวช้า ๆ จากด้านใน ค่อย ๆ ขยับไม่ให้มีเสียง เพื่อไปให้ใกล้ปากถ้ำที่สุด พอขยับมาถึงครึ่งทาง อาตมาก็ตกใจสุดขีดอีกรอบเพราะชนกับอะไรไม่ทราบรู้สึกแต่ว่านุ่ม ๆ แต่แล้วก็มีเสียงดังขึ้นพร้อมกันสามเสียง “ เฮ้ย ! ”
ที่แท้ผู้กล้าทั้งสาม ต่างก็พร้อมใจกันเคลื่อนตัวไปหาปากถ้ำพร้อม ๆ กัน พอรู้สึกตัว ขำกันจะแย่ โธ่ ! นึกว่าแน่
ทำให้นึกถึงคำของหลวงพ่อธัมมชโยที่ท่านพร่ำสอนว่า
“ แม้สถานที่จะเป็นสัปปายะแค่ไหนก็ตาม หากใจไม่หยุดนิ่งก็ไม่เข้าถึงองค์พระ แต่ตรงกันข้าม หากที่นั้น ๆ แม้แวดล้อมไปด้วยสิ่งรบกวนมากมาย แต่หากใจเราไม่ได้ไปจรดจ่อกับสิ่งแวดล้อมนั้น แต่เอาใจกลับเข้าสู่ภายใน หยุดนิ่งถูกส่วน ก็จะเข้าถึงองค์พระภายใน”
จึงได้บทเรียนล้ำค่าว่า การแสวงหาความสงบที่แท้จริงนั้น ไม่ใช่การไปค้นหาจากสิ่งที่อยู่ภายนอก เพราะความสงบที่แท้จริงนั้น อยู่ภายในตัวของเรานี่เอง
(โปรดติดตามความประทับใจเรื่องที่ ๒ ในโอกาสต่อไป)
ขอขอบคุณภาพจาก google.com
อาสภกันโต ภิกขุ
๒ ส.ค. ๕๙
หลวงพ่อสอนอะไร(ตอนที่ ๑๕)
Reviewed by asabha072
on
11:16 AM
Rating:
สาธุเจ้าค่ะ FC คอยอ่าน
ReplyDeleteสุดยอดดด...อนุโมทนาบุญคราบ 55 นึกว่าแน่
ReplyDeleteสาธุเจ้าค่ะ
ReplyDeleteที่สัปปายะแต่ละท่านไม่เหมือนกัน คนชินกับป่า กับถ้ำ อยู่แล้วสงบ สำหรับผมขออยู่ที่เงียบๆ แต่ไม่วังเวงดีกว่า อิอิ
ReplyDeleteปล. รอติดตาม นุ่มๆ นี่มันอะไรครับ
สาธุครับ
ReplyDeleteสาธุ ขำนึกว่าแน่ค่ะ
ReplyDeleteสาธุ ขำนึกว่าแน่ค่ะ
ReplyDeleteอยากอ่านอีกค่ะ..อะไรต่อน้าาา
ReplyDeleteอยากอ่านอีกค่ะ..อะไรต่อน้าาา
ReplyDelete👍😀🙏🌹🌹🌹
ReplyDeleteกำลังสนุกอยู่พอดี รอตอนต่อไปค่ะ
ReplyDeleteสาธุค่ะ
ReplyDeleteสาธุค่ะ
ReplyDeleteสาธุเจ้าค่ะ
ReplyDeleteดีมากๆเลยค่ะ
สาธุเจ้าค่ะ เป็นคงหัวใจวายแน่ ๆ
ReplyDeleteสาธุ
ReplyDeleteสาธุ
ReplyDeleteสาธุ
ReplyDeleteถูกใจมาก สอนดีมากๆคะ พระธรรมกายคือกายตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อเกิดมาได้พบได้ยินได้เรียนรู้จากผู้รู้จริง ชีวิตเกืดมาชาตินี้ไม่สูญปล่าวจริงๆคะ อนุโมทนาบุญคะ
ReplyDelete💐🙏🙏🙏
ReplyDeleteคำสอนของหลวงชัดเจนง่ายต่อการปฏิบัติ
ReplyDeleteกราบอนุโมทนาบุญกับพระอาจารย์เป็นอย่างสูงเจ้าค่ะ ที่เอาคำสอนหลวงพ่อมาตอกย้ำซ้ำเตือนให้พวกเราอยู่เสมอ กราบสาธุเจ้าค่ะ
ReplyDeleteสาธุค่ะ
ReplyDeleteสาธุ สาธุ สาธุค่ะ
ReplyDeleteสาธุ สาธุ สาธุค่ะ
ReplyDeleteสาธุๆๆๆ
ReplyDeleteสาธุๆ
ReplyDeleteหลวงพ่อสอนแต่สิ่งดี มีประโยชน์ และไม่ไปเบียดเบียใคร มีแต่คนพาลบาปหนากล้าหนากล้าหาเรือ่งกับพระที่ดีขนาดนี้
ReplyDeleteสาธูๆๆ อนุโมทนาด้วยอย่างยิ่ง
ReplyDeleteแต่ละคำสอนของหลวงพ่อมีคุณค่ายิ่ง สาธุๆ
ReplyDeleteถ้าเป็นเรา คงเฝ้าหนัาถำ้
ReplyDeleteเเต่ก็จริงดังคำที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อให้โอวาทไว้
ถ้าใจนิ่งเเล้ว อะไรก็ไม่สามารถรบกวนได้
สาธุ
ReplyDeleteสาธุ
ReplyDeleteเพราะเรายังไม่แน่ เลยต้องฟังหรืออ่านเยอะๆอย่าลืมต้องเอามาปฏิบัติด้วย
ReplyDeleteเพราะเรายังไม่แน่ เลยต้องฟังหรืออ่านเยอะๆอย่าลืมต้องเอามาปฏิบัติด้วย
ReplyDeleteสาธุค่ะ
ReplyDeleteน่าติดตามมากเลยค่ะ
ReplyDeleteเป็นประสบการณ์ที่น่าสนุกมากเลยค่ะ
ReplyDeleteสาธุๆๆ เป็นธรรมะที่มีคุณค่ายิ่ง และหาได้ยากยิ่ง
ReplyDeleteหากได้มีการถ่ายทอดความรู้ในมุมมองที่หลายๆคนคงไม่ทราบ ก็จะทำให้เกิดความรู้ความเข้าใจ ความเคารพรักและศรัทธาเลื่อมใส และรู้ซึ้งถึงพระคุณของพระเดชพระคุณพระเทพญาณมหามุนี(หลวงพ่อธัมมชโย) เป็นอย่างยิ่งฯ
สาธุวัดพระธรรมกายสอนได้ดีมากเจ้าค่ะเราชาวพุทธตอ้งรักษาพระพุทธศาสนาไห้สืบต่อไปนานเท่านานค่ะ
ReplyDeleteสาธุครับ
ReplyDeleteสาธุครับ
ReplyDeleteสาธุค้ะ
ReplyDeleteกราบอนุโมทนาครับ
ReplyDeleteกราบอนุโมทนาบุญค่ะ
ReplyDeleteกราบอนุโมทนาบุญค่ะ
ReplyDelete
ReplyDeleteสาธุๆๆๆ
เป็นความจริงท่ีทุกคนควรรู้ เมื่อได้เกิดมาเป็นมนุษย์. อย่าให้เสียชาติเกิดชาตินี้ลดทิฐิมานะแล้วลองอ่านดูแล้วจะรู้ว่าคุ้มค่า
ReplyDeleteพอจะถึงตอนดีก็อย่างนี้ทุกที "โปรดติดตาม ตอนต่อไป"
ReplyDeleteสาธุๆๆค่ะ
ReplyDeleteสุดยอดค่ะ
สาธุขอรับกระผม
ReplyDeleteสาธุขอรับกระผม
ReplyDelete"ความสงบที่แท้จริงนั้น อยู่ภายในตัวของเราเอง" เป็นความจริงที่แสนจริงเลยค่ะ สาธุๆๆกราบขอบพระคุณหลวงพ่อเป็นอย่างสูงเจ้าค่ะ
ReplyDelete"ความสงบที่แท้จริงนั้น อยู่ภายในตัวของเราเอง" เป็นความจริงที่แสนจริงเลยค่ะ สาธุๆๆกราบขอบพระคุณหลวงพ่อเป็นอย่างสูงเจ้าค่ะ
ReplyDelete"ความสงบที่แท้จริงนั้น อยู่ภายในตัวของเราเอง" เป็นความจริงที่แสนจริงเลยค่ะ สาธุๆๆกราบขอบพระคุณหลวงพ่อเป็นอย่างสูงเจ้าค่ะ
ReplyDelete"ความสงบที่แท้จริงนั้น อยู่ภายในตัวของเราเอง" เป็นความจริงที่แสนจริงเลยค่ะ สาธุๆๆกราบขอบพระคุณหลวงพ่อเป็นอย่างสูงเจ้าค่ะ
ReplyDeleteสาธุๆๆๆคะ
ReplyDeleteหลวงพี่เล่าสนุกค่ะ คอยอ่านตอนต่อไปค่ะ ขอยาวๆเจ้าค่ะ
ReplyDeleteหลวงพี่เล่าสนุกค่ะ คอยอ่านตอนต่อไปค่ะ ขอยาวๆเจ้าค่ะ
ReplyDeleteสาธุ
ReplyDeleteสาธุ สาธุ สาธุ เจ้าค่ะ
ReplyDeleteสาธุ สาธุ สาธุ เจ้าค่ะ
ReplyDeleteสาธุคะ
ReplyDeleteหลวงพ่อสอนให้ทำความดี ให้กำลังใจให้ทุกคนทำความได้ตลอดไป และประคับประคองด้วยบุญให้ลูก ๆ อยู่ในเส้นทางบุญ
ReplyDeleteสาธุเจ้าค่ะ
ReplyDeleteหยุด คือ ตัวสำเร็จ ค่ะ
ReplyDeleteจริงแท้ครับ
ReplyDeleteสาธุ_กราบอนุโมทนาบุญพระเทพญาณมหามุนีฯท่านผู้ชี้_แนะ_และนำบอกหนทางพระนิพพานค่ะ
ReplyDeleteเป็นความจริงเลยเจ้าค่ะ ถ้าใจไม่หยุดต่อให้อยู่ที่สงัดก็ฟุ้งจินตนาการไปได้เรื่อย
ReplyDeleteสาธุค่ะ
ReplyDeleteสาธุๆๆค่าา
ReplyDeleteหลวงพ่อสอนให้เราทำแต่ความดีไม่ไปว่าใครให้มั่นทำหยุดทำนิ่งทำให้แจ้งซึ่งอรหัตผลเพื่อการหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด
ReplyDeleteA very interesting narrative!
ReplyDeleteหลวงพ่อ ท่านพูดจากประสพการณ์จริงของท่านค่ะ
ReplyDeleteหลวงพ่อ ท่านพูดจากประสพการณ์จริงของท่านค่ะ
ReplyDeleteธรรมคือสิ่งประเสริฐ มีอยู่ในตัวเราอยู่แล้ว
ReplyDeleteรออยู่ในตัวของทุกคนอยู่แล้ว
รอคนจริง ทำถูกวิธี มีความเพียร
ก็จะเข้าถึงธรรมได้ในที่สุด
สาธุ สาธุ สาธุ เจ้าค่ะ
ReplyDeleteสาธุคับ
ReplyDeleteสาธุเจ้าค่ะ ขอตามหลวงพ่อทุกภพชาติ
ReplyDeleteสาธุเจ้าค่ะ ขอตามหลวงพ่อทุกภพชาติ
ReplyDeleteสาธุเจ้าค่ะ
ReplyDeleteสาธุเจ้าค่ะ
ReplyDeleteสาธุเจ้าค่ะ
ReplyDeleteสาธุเจ้าค่ะ
ReplyDeleteกราบอนุโมทนาบุญที่เล่าเรื่องดีๆมีประโยชน์และคุณค่าต่อการเกิดมาเป็นมนุษย์ค่ะ
ReplyDeleteสาธุค่ะ
ReplyDeleteสาธุครับ
ReplyDeleteสาธุครับ
ReplyDeleteสาธุ สาธุ สาธุ
ReplyDeleteสาธุค่ะ
ReplyDeleteสาธุๆๆๆ
ReplyDeleteกราบสาธุ สาธุ สาธุ เจ้าค่ะ
ReplyDeleteสนุกจัง /สุดยอดเลยค่ะ เป๊ะถ้าใจหยุดนิ่ง เราอยู่ ณ ที่ไหนก็เป็นบุญ
感恩有法勝師父帶領的整個法身團隊,令人能學習到打坐,學習到佛教。
ReplyDelete感恩有法勝師父帶領的整個法身團隊,令人能學習到打坐,學習到佛教。
ReplyDeleteสาธุค่ะ
ReplyDelete😂😂😂5555+++
ReplyDelete