รอวันหนอนกลายเป็นผีเสื้อ

รอวันหนอนกลายเป็นผีเสื้อ

        อาตมาได้รับข่าวสารจากกัลยาณมิตรที่เมืองไทย ทั้งโทรมาสอบถาม ทั้งไลน์มาคุย ถึงประเด็นเรื่อง “หนอน” ที่กำลังเป็นหัวข้อของการสนทนากันอย่างกว้างขวางในขณะนี้ ก็เลยให้หลักในการพิจารณาไปหลายประเด็นเพื่อจะได้ไม่ต้องมานั่งกังวลกัน

        ประเด็นแรก ให้ทำความเข้าใจว่า “กลศึกไม่เคยว่างเว้นอุบาย” เราก็รู้ ๆ อยู่ว่า เป้าหมายของผู้ที่ต้องการจะจัดการกับวัดพระธรรมกายเขาต้องการอะไร ดังนั้นทุกวิถีทางที่จะทำให้บรรลุวัตถุประสงค์ เขาก็ต้องทุ่มเทให้เต็มที่ โดยไม่คำนึงถึงวิธีการหรือความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับบุคคลหรือพระพุทธศาสนาแต่อย่างใด

        ประเด็นที่สอง ให้ทำความเข้าใจว่า จุดแข็งขององค์กรต่าง ๆ คือ “ความสามัคคี” ดังนั้นหากต้องการทำลายองค์กรใด ก็ต้องทำให้เกิดความแตกแยกในองค์กรนั้น เหมือนที่วัสสการพราหมณ์ได้ใช้อุบายทำลายกษัตริย์ลิจฉวี

        ประเด็นที่สาม ให้ทำความเข้าใจว่า “คนจะรู้จักกันก็ต่อเมื่อได้อยู่ร่วมกัน” หากเข้าใจในจุดนี้เราจะไม่ตกเป็นเหยื่อของผู้มายุแยงตะแคงรั่ว เพราะการอยู่ร่วมกันจะทำให้เรารู้จักอุปนิสัย ใจคอ ความคิด คำพูด การกระทำ ของบุคคลที่อยู่ร่วมกับเรา

        ประเด็นสุดท้าย ได้ให้ข้อคิดไปว่า จะพิจารณาอะไรก็ตาม อย่าทิ้งหลัก “โอวาทปาฏิโมกข์” เพราะนั่นคือ “วิถีชีวิตของชาวพุทธ” ที่พระพุทธองค์ได้ให้หลักไว้ คือ หากเป็นชาวพุทธที่แท้จริงแล้ว จะต้อง ไม่ว่าร้าย ไม่ทำร้าย ระมัดระวังในการรักษาศีลและมารยาทของตน           ดังนั้นหากได้ยิน ได้ฟังใครก็ตามที่ใส่ร้ายผู้อื่น นั่นย่อมผิดหลักของชาวพุทธแล้ว

        สาธุชนท่านนั้น ได้ถามต่อไปว่า อาตมามีความรู้สึกอย่างไรกับเรื่องนี้ ?

        อาตมาก็ตอบไปว่า อาตมาไม่ได้รู้สึกหนักอกหนักใจอะไร เพราะมีความเชื่อมั่นอยู่ ๒ เรื่องใหญ่ ๆ

        ๑. เชื่อมั่นในหมู่คณะ องค์กรของเรากว่าจะก้าวมาได้ถึงทุกวันนี้ก็ด้วยการที่เรามีเป้าหมายอันเดียวกันคือ การขยายงานพระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย โดยมีความเคารพในครูบาอาจารย์ และผู้บริหารทุกรูปทุกท่าน ก็ได้ผ่านการกลั่นกรองมาแล้วเป็นอย่างดีจากครูบาอาจารย์

        ๒. เชื่อมั่นในญาณทัศนะของคุณยายอาจารย์ เนื่องจากที่ผ่านมา หากคุณยายอาจารย์ได้พูดถึงใครว่าอย่างไร มักจะเป็นอย่างนั้น ยกตัวอย่างเช่น อดีตพระที่กำลังมุ่งทำร้ายครูบาอาจารย์อยู่ทุกวันนี้ คุณยายอาจารย์เคยบอกกับอาตมาว่า “ท่าน อย่าไปเชื่อมากนะ องค์นี้จะทำให้วัดมีปัญหา” ทั้งที่ในเวลานั้น ยังไม่มีวี่แววว่าจะเกิดการอกตัญญูอย่างที่เห็นในปัจจุบัน

        ส่วนพระอาจารย์ที่กำลังเป็นเป้าหมายของการโจมตีในครั้งนี้ อาตมาได้ยินแต่คุณยายชื่นชมท่านว่า ท่านจะเป็นผู้ที่ช่วยงานของหลวงพ่อ

        ท้ายสุดก็เลยฝากข้อคิดกับญาติโยมไปว่า ในเรื่องเกี่ยวกับ “หนอน” อย่าไปเดือดร้อน หากมีจริง มองอีกด้านก็คือ บทพิสูจน์ความเข้มแข็งขององค์กรของเรา หากไม่สามารถผ่านเรื่องนี้ไปได้ เราคงไม่สามารถที่จะไปทำงานระดับโลกได้ 

        และไม่แน่นะหากจะมีสักวันที่ “หนอน” ตัวจริง ที่เข้ามายุแหย่ให้หมู่คณะแตกความสามัคคี เกิดเปลี่ยนใจ กลับตัวกลับใจ อาจกลายเป็นผีเสื้อ โบยบิน ให้ความสวยงามกับโลกได้

       อาตมาใจเย็นพอที่จะรอวันนั้นนะ “หนอน” นะ







อาสภกันโต ภิกขุ
๑๑ ก.ย. ๖๐