ขอโทษที ! ผมคนขี้สงสัย

      เมื่อครั้งผมยังเด็ก ความที่เป็นลูกชายคนเดียวที่อยู่ท่ามกลางญาติ ๆ ที่เป็นผู้หญิง เลยติดนิสัย ช่างซัก ช่างถาม ช่างเจรจา จนหลายครั้งคนรอบข้างก็เบื่อเพราะชอบถามเรื่องไม่เป็นเรื่อง เช่น ทำไมดวงอาทิตย์มันสว่าง ทำไมดวงจันทร์มันแหว่ง ทำไมดวงอาทิตย์ ไม่ขึ้นกลางคืน ฯลฯ ญาติ ๆ เขาคงรำคาญ เลยมักจะเดินหนีก่อนผมถามจบ

     

       เมื่อมาสมัครเป็นลูกศิษย์วัดพระธรรมกายยิ่งทำให้ผมชอบซักถามมากขึ้นไปอีก เพียงแต่เริ่มเป็นเรื่องเป็นราว หลวงพ่อทั้งสององค์สอนให้ผมรู้จักการตั้งคำถามให้น่าตอบ (หลวงพ่อรองเจ้าอาวาสท่านบอกว่า เมื่อก่อนคำถามที่ผมชอบถาม มักเป็นคำถามที่น่าตบ)

     หลวงพ่อทั้งสองจะมีแนวทางการสอนคนละแบบแต่เรื่องเดียวกัน กล่าวคือ หลวงพ่อเจ้าอาวาสท่านจะสอนให้ปฏิบัติธรรมเพื่อเข้าไปค้นหาความจริงของชีวิต สอนให้รู้จักการรักษาใจในขณะที่ต้องอยู่กับสังคมที่หลากหลาย ท่านสอนให้เอาพระพุทธเจ้าเป็นต้นแบบ และให้รักการปฏิบัติธรรมเพื่อจะได้ตามรอยพระพุทธองค์ได้ ในขณะที่หลวงพ่อรองเจ้าอาวาส จะสอนให้อ่านพระไตรปิฎกและให้ตั้งคำถามทุกบรรทัด เช่น อ่านพระสูตร แค่ขึ้นต้นว่า เอวัมเม สุตังฯ ท่านก็สามารถอธิบายได้ยืดยาว โยงไปหาพระอานนท์ คำขอพรของพระอานนท์ เป็นต้น ท่านบอกว่าการที่เราศึกษาอะไรก็ตาม ต้องให้รู้จริง เพื่อเอาคำตอบ นั้นไปยืนยันการตรัสรู้ธรรมของพระพุทธองค์ให้ได้

         
       สิ่งที่หลวงพ่อทั้งสองสอนเหมือนกัน คือ การสอนให้มีเหตุมีผล ดังนั้นการที่หลาย ๆ คนกล่าวว่าวัดนี้เอาความเชื่อนำหน้า ก็ขอบอกว่า เข้าใจยังไม่หมด เนื่องจากความเชื่อหากไม่ประกอบด้วยปัญญาแล้ว เรียกว่า งมงาย แต่ที่หลวงพ่อท่านสอนนั้น ให้เราพิสูจน์เอง ไม่เคยบังคับว่าต้องเชื่อท่าน แต่เราเชื่อจากการพิสูจน์จากการไตร่ตรองแล้ว จึงเรียกว่า ศรัทธา ซึ่งเป็นความเชื่อที่ประกอบไปด้วยปัญญา

หมายเรียกฉบับที่สื่อนำออกเผยแพร่ในช่วงเย็นของวันที่ ๒๙ มี.ค.

        จากการที่ถูกหลวงพ่อสอนให้ฝึกตั้งคำถามนี่เอง เมื่อผมเห็นหมายเรียกหลวงพ่อเจ้าอาวาส ในตอนหัวค่ำ ที่สื่อนำไปกระจายกัน โดยที่ทางวัดยังไม่เห็น ผมก็ตั้งคำถามแล้วว่า เอ ทำไมสื่อได้รับก่อนผู้ที่ถูกหมายเรียก พอเช้าวันรุ่งขึ้นทางวัดจึงได้รับหมายเรียกแต่เช้า ผมก็นึกยังไงไม่รู้ ขอดูหมายจากทางวัดแล้วก็เอามาเทียบกับฉบับของสื่อ เลยเกิดคำถามอีกว่า อ้าว ทำไมหมายเรื่องเดียวกัน จึงไม่เหมือนกัน แล้วก็เกิดคำถามต่อไปอีกว่า ฉบับแรกปลอมหรือไม่ จากนั้นคำถามติดพันตามมาคือ หากปลอมแล้วใครปลอม ยัง ไม่พอ ถามต่ออีกว่า แล้วคนปลอมจะมีความผิดอะไรหรือไม่ ?

หมายเรียกที่เจ้าหน้าที่นำมาส่งเมื่อเช้าวันที่ ๓๐ มี.ค. 

                ผมขอสรุปคำถามอีกครั้งนะครับ

๑. ทำไมสื่อจึงได้เห็นหมายเรียกและนำไปเผยแพร่ก่อนผู้ถูกเรียกตามหมาย 

๒. หมายเรื่องเดียวกัน ทำไมจึงไม่เหมือนกัน

๓. หมายเรียกฉบับแรกจริงหรือปลอม

๔. หากปลอม ใครปลอมและผู้ปลอมเอกสารราชการ ได้รับการแจ้งความเอาผิดอย่างใดหรือไม่

๕. หากจริง สื่อเอาเอกสารราชการออกมาเผยแพร่ได้อย่างไร

            

              หวังว่าผมคงได้รับคำตอบนะครับ หลาย ๆ คนก็รอคำตอบพร้อมกับผม คงจะกระจ่างก็คราวนี้หล่ะ จะได้หายคลางแคลงใจเสียทีว่าคดีนี้มีเงื่อนงำอะไรหรือไม่ ขออภัยนะครับ ช่วยไม่ได้จริง ๆ ผมมันคนขี้สงสัยครับ




WHITE KNIGHT